คุณแม่พาพวกเราเดินย้อนเพื่อไปยังบ้านเกิดของคุณแม่ ห่างจากบ้านหลังใหม่ที่สร้างโดยคุณลุง คุณพ่อ และพี่ชายที่อยู่ฮ่องกง ใช้เวลาเดิน 5 นาที บ้านเกิดของคุณแม่ เป็นบ้านปลูกติดกัน 8 หลัง อยู่กัน 15 ครอบครัว ญาติของคุณแม่ออกมาต้อนรับ และมีการจุดประทัดแสดงความยินดี ที่คุณแม่กลับมาเยี่ยม
พี่ๆ น้องๆ หลานๆ ของคุณแม่ ได้เตรียมของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ (คุณตา คุณยาย และพี่ชายของคุณแม่) ฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษฝังอยู่เนินเขาเตี้ยๆ ด้านหลังบ้าน ซึ่งใช้ปลูกส้มโอ
หลานๆ ของคุณแม่พาพวกเราเดินขึ้นเขาเตี้ยๆ เล่นเอาพวกเราหอบพอสมควร บนเนินราบเป็นที่ฝังศพของคุณตา คุณยาย คุณลุง รอบๆ ปลูกส้มโอผลยาวๆ สีเหลือง ลูกเล็กกว่าส้มโอเมืองไทย ตอนที่เราไปส้มโอกำลังออกดอกบานสะพรั่ง กลิ่นหอมเย็นไปทั่วทั้งเขา
พวกเราเดินกลับมาที่บ้านหลังใหม่ การรับประทานอาหารกลางวันก็เริ่มขึ้น โต๊ะอาหารถูกจัดเป็น 10 โต๊ะนั่งได้โต๊ะละ 8 คน ญาติทางคุณลุง คุณพ่อ มี 7 โต๊ะ ญาติทางคุณแม่มี 3 โต๊ะ อาหารถูกจัดเตรียมโดยญาติทั้งสองฝ่าย เป็นอาหารพื้นบ้านของที่นี่มี 10 อย่าง เช่น ไก่ตอน ปลิงทะเล ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ผัดเผ็ดกบ ขาหมูตุ๋น ผัดผักปวยเล้ง ฯลฯ ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายทำกันเอง เครื่องดื่มมีทั้ง ชาจีน เบียร์จีน วิสกี้จีน เป็ปซี่ สไปร์ มิรินด้า พวกเราทานกันจนจุก ผมเลยเดินถ่ายรูปญาติๆ ทุกโต๊ะ
ทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเราก็ออกมานั่งตาปรือที่ลานหน้าบ้าน มีการทักทายญาติๆ ที่มีศักดิ์เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นหลาน เป็นเหลน ผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่หรือน้องของผม ส่วนใหญ่อายุ 50-65 ปี ส่วนหลานๆ ก็มีอายุ 49 ปีลงมา เหลนตัวเล็กที่มาร่วมงานอายุ 13 เดือน
พี่ชายที่มาจากฮ่องกงพาพวกเราเดินไปเยี่ยมบ้านคุณปู่ซึ่งอยู่เนินเขาฝั่งตรงข้าม ตอนผมเด็กๆ คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า คุณปู่เกิดที่ประเทศจีน แล้วมาอยู่เมืองไทยย่านเยาวราช ทำมาค้าขายเครื่องเหล็ก เครื่องก่อสร้าง กลับมาเที่ยวเมืองจีนและแต่งงานกับคุณย่า พอมีลูกคือคุณลุงกับคุณพ่อ ก็พามาอยู่เมืองไทย พอคุณพ่ออายุ 17 ปี คุณปู่ก็ส่งมาเรียนภาษาจีนที่บ้านเกิด 3 ปี คุณพ่อได้พบกับคุณแม่ที่นี่ แต่งงานกันแล้วคุณพ่อก็พาคุณแม่ไปอยู่ที่เมืองไทย ย่านตลาดนานา บางลำภู บ้านของคุณปู่เดินข้ามเนินเขาก็ถึง
คุณแม่ของผมต้องนั่งพักสักครู่ หมู่บ้านนี้เป็นของคน 2 ตระกูล ตระกูลของคุณปู่กับตระกูลของเพื่อนร่วมสาบาน พี่ชายชาวฮ่องกงเดินนำไปบ้าน 3 หลังด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายเป็นของอีกตระกูลหนึ่ง
บ้านของคุณปู่ไม่มีใครอยู่อาศัย ภายในบ้านตั้งป้ายชื่อของคุณปู่คู่กับป้ายชื่อเพื่อนร่วมสาบาน พวกเราเดินดูบริเวณบ้าน พี่ชายชาวฮ่องกงมาทุกปี และนำเงินมาซ่อมแซมบ้านนี้เป็นระยะๆ โดยมีลูกหลานของเพื่อนร่วมสาบานของคุณปู่ ช่วยดูแลบ้านหลังนี้ให้
ขากลับ เจ้าถิ่นพาเดินทางลัด ข้ามท้องนาซึ่งเมื่อก่อนเป็นลำคลอง พวกเราถามว่าทำไมขาไปไม่พามาทางนี้ พวกเขากลับหัวเราะ บอกว่าอยากพาชมทิวทัศน์รอบๆ ของชุมชนแห่งนี้
เวลาประมาณ 18.00 น. พวกเราร่ำลาญาติๆ ชาวจีน ออกเดินทางกลับสู่โรงแรมเทียนจิน ไกด์บอกว่าอาหารมื้อเย็นให้พวกเราหารับประทานตามอัธยาศัย (แปลว่าหากินเอง) ผมและคณะหมายตาไว้แล้วว่า มื้อเย็นนี้พวกเราจะไปทาน McDonald หรือไม่ก็ KFC ซึ่งราคาแพงกว่ากรุงเทพฯ ประมาณ 25%
พวกเราแยกย้ายเข้าที่พัก อาบน้ำพักผ่อน ทุกครอบครัวตกลงว่า ต่างคนต่างไปหาอาหารเย็นทานตามอัธยาศัย ครอบครัวของผมทานอาหารเย็นเสร็จ ก็ออกเดินชมเมือง มีร้านขายซีดี (CD) และดีวีดี (DVD) ราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ เป็นภาพยนต์ที่ทางกรุงเทพฯ กำลังจะฉายแต่มีขายในประเทศจีนแล้ว น้องโบว์ชอบมาก เพราะมีทั้งการ์ตูนญี่ปุ่นที่น้องโบว์สนใจ คอนเสิร์ตของ F4 และอื่นๆ อีกมาก ออกจากร้านซีดี พวกเราก็เข้าไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ โรงแรม หาซื้อนมจืด และขนมหลายอย่างไว้ทานเล่น
เราเดินชมเมือง คนจีนส่วนใหญ่จะออกมานั่งจิบชาจีนริมถนนเป็นกลุ่มๆ มีผลไม้ขายหลายชนิด ข้าวโพดต้มก็มี แห้วต้มก็มี นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าขาย คล้ายๆ ย่านสีลมตอนกลางคืน มีคนจีนที่มีฝีมือวาดเขียน จะมานั่งเขียนรูป หรือเขียนตัวหนังสือจีนขาย ผมกับครอบครัวเดินเที่ยวเกือบ 21.00 น. ก็เดินกลับโรงแรม พรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทางกลับไปยังเมืองเซินเจิ้น เพื่อท่องเที่ยว 1 วัน สำหรับวันนี้ลาไปนอนก่อนครับ