อินเทอร์เน็ตกับครูแพทย์


ความหมาย
อินเทอร์เน็ต (Internet) คือชื่อของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แต่ว่าไม่ใช่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ธรรมดา เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์จากทั่วโลกเข้าด้วยกัน

คำศัพท์

1. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้น จะเรียกว่า โหนด ( node ) หรือ โฮสต์ ( host )

2. เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่ต่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต จะมีชื่อเฉพาะเป็นของตนเองที่ได้จดทะเบียนเอาไว้ เรียกว่า "ชื่อโดเมน" ( domain name ) เช่น md2.md.chula.ac.th, mozart.inet.co.th เป็นต้น

3. นอกจากจะต้องมีชื่อโดเมนแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่ต่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต จะต้องมีที่อยู่หรือหมายเลข IP เป็นของตนเองด้วย เช่นเครื่อง md2.md.chula.ac.th มีหมายเลข IP เป็น 161.200.96.2, เครื่อง mozart.inet.co.th มีหมายเลข IP เป็น 202.44.200.1 เป็นต้น

4. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต ต้องใช้ PROTOCOL ที่มีชื่อว่า TCP/IP ในการรับ-ส่งข้อมูล

5. โดยปกติแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ จะต่ออยู่กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา โดยผ่านสายที่เชื่อมต่อเป็นการถาวรเรียกว่า "สายเช่า" ( leased line ) และส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ระบบปฏิบัติการ ( Operating System ) แบบ UNIX

6. ยังมีการเชื่อมต่ออีกแบบหนึ่ง ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ต่ออยู่กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา แต่จะเชื่อมต่อเพียงชั่วคราวเท่านั้น เช่น วันละครั้งหรือ 2 ครั้ง เพื่อรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิคส์ ( Electronic Mail ) UseNet news และรับ-ส่งไฟล์เท่านั้น โดยเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านี้ จะใช้โปรโตคอลที่มีชื่อว่า UUCP

ประวัติอินเทอร์เน็ต
ในระหว่างปี ค.ศ.1967 ซึ่งเป็นช่วงสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯกับสหภาพโซเวียต ( ในขณะนั้น ) กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ( DoD: Department of Defense ) ได้จัดตั้งหน่วยงานวิจัยทางการทหารชื่อ อาร์ปา ( ARPA, Advanced Research Project Agency ) เพื่อคิดค้นและทำการวิจัยทางการทหารเกี่ยวกับเรื่อง ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เนื่องจากทางสหรัฐฯเกรงว่าถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ จะทำให้ระบบเครือข่ายถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ต่อมาในปี ค.ศ.1969 เครือข่ายอาร์ปาได้ถูกเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยอีก 4 แห่ง เพื่อเป็นการทดลอง หลังจากนั้นกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ยกเครือข่ายดังกล่าวให้เป็นสมบัติสาธารณะ ที่รู้จักกันในนามของอินเทอร์เน็ต ระบบอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาในส่วนของระบบการศึกษาประมาณปี ค.ศ.1971 โดยในปีแรกมีมหาวิทยาลัยและหน่วยงานเข้าร่วม 15 แห่ง สมาชิกระบบอินเทอร์เน็ตมีอัตราการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง เป็น 2 เท่าทุก ๆ ปี โดยในต้นปี ค.ศ.1996 จำนวนคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ( host ) เท่ากับ 4,852,000 เครื่อง สำหรับประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน 2537 ( ค.ศ. 1994 ) มีคอมพิวเตอร์แม่ข่ายราว 1,200 เครื่อง และมีอัตราการเติบโตของสมาชิกถึงร้อยละ 120 ต่อปี

สถานการณ์ของอินเทอร์เน็ต
Network Wizards ที่ http://www.nw.com รายงานการสำรวจจำนวนโฮสต์และโดเมนเนมต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต การสำรวจทำขึ้นทุก ๆ 6 เดือน จากสถิติพบว่ามีโฮสต์เพิ่มขึ้นสองเท่าภายในเวลา 1 ปี นับจากเดือนกรกฎาคม 1995 ถึงกรกฎาคม 1996 และจำนวนโดเมนเนมเพิ่มเป็นสี่เท่า

ชื่อโดเมนที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ .com มีอยู่ถึงกว่า 3 ล้านชื่อ รองลงมาคือ .edu และ .net ประเทศไทยมี 6,362 โดเมนที่ลงท้ายด้วย .th แต่ไม่ได้หมายความว่า ทั้งประเทศไทยจะมีโดเมนเพียงเท่านี้ เพราะมีหลายองค์กรที่ลงท้ายด้วย .com แทนที่จะเป็น .co.th หรืออย่างที่บางกอกโพสต์เป็น http://www.bangkokpost.net เป็นต้น

สำหรับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต มีอยู่ 2 แห่งที่ได้ผลใกล้เคียงกัน คือที่ InternationalData พบว่ามีประมาณ 23.5 ล้านคน และที่ Matrix Informational and Directory Services พบว่ามี 26.4 ล้านคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต

จากการสำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1996 พบว่ากลุ่มอายุ 18-24 ปีที่ใช้อินเทอร์เน็ตมีจำนวนเกือบ 5 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 10 ล้านคนในปี 2001

จากการสำรวจตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1994 เป็นต้นมา จำนวนผู้ใช้ซอฟท์แวร์ในเวิลด์ไวด์เว็บ ผลปรากฎว่า ยังมีผู้ที่นิยมใช้ Netscape มากกว่า Microsoft Internet Explorer สำหรับเวอร์ชั่นที่ใช้ของทั้งสองโปรแกรม 78% ใช้ Netscape เวอร์ชั่น 3 และ 90% ใช้ Microsoft Internet Explorer เวอร์ชั่น 3

วงการอินเทอร์เน็ตในเอเซีย
อุปสรรคสำคัญของชาวเอเซียคือ bandwidth และโอกาสในการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต จากการสำรวจโดย Network Wizards ที่ http://www.nw.com พบว่าบราซิลมีโฮสต์อยู่ประมาณ 43,311 แห่ง เกือบจะเท่าเกาหลีที่มี 47,973 แห่ง อินเดียมีประชากรมากกว่าบราซิลแต่มีโฮสต์เพียง 5,262 แห่ง น้อยกว่าประเทศไทยที่มีอยู่ราว 6,362 แห่ง

ญี่ปุ่น มีสายเชื่อมต่อกับสหรัฐฯที่ใหญ่ที่สุดทาง T-3 มีคนใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 1.5 ล้านคนเทียบเท่ากับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเอเซียรวมกัน มีการคาดการณ์ว่าจะมีชาวญี่ปุ่นใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 10 ล้านคนในปี 2000 ขณะนี้มีผู้ให้บริาการอินเทอร์เน็ตกว่า 300 ราย

ในประเทศจีน อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมจากรัฐบาล โดยข้อมูลทุก ๆ packet จะต้องผ่าน gateway ที่รัฐบาลดูแลอยู่ มีผู้ใช้ประมาณ 150,000 คน, ในเวียตนาม มีการเก็บค่าบริการอินเทอร์เน็ตหลายอัตรา แต่สำหรับผู้มีรายได้น้อยคิดค่าบริการเดือนละไม่เกิน 500 บาท, ในสิงคโปร์ รัฐบาลควบคุมอินเทอร์เน็ตโดยบังคับให้ทุกโฮสต์ต้องผ่าน Singapore Broadcast Authority สิงคโปร์มีประชากรทั้งหมด 3 ล้านคน และ 1 แสนคนใช้บริการอินเทอร์เน็ต นับเป็นประเทศแรกในเอเซียที่มีค่าเฉลี่ยประชากรรวมต่อคน ที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด

การเตรียมพร้อมก่อนการใช้บริการอินเทอร์เน็ต

1. ฮาร์ดแวร์

- เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ระดับ 286 ขึ้นไป หน่วยความจำอย่างน้อย 640K จอภาพ VGA หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ Apple Macintosh Classic ( 2 Mb ) ขึ้นไป

- โมเด็มความเร็วไม่ควรต่ำกว่า 9600 bps ( V.32 ) ถ้าเป็น 14.4 Kbps ( V.32 bis ) หรือ 28.8 Kbps ( V.34 ) ก็จะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก

2. ซอฟท์แวร์

เนื่องจากโปรแกรมใช้งานบนอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ จะอยู่ที่เครื่องโฮสต์ของศูนย์บริการฯ อยู่แล้ว โปรแกรมที่ผู้ใช้จะต้องมี ก็มีเพียงโปรแกรมสื่อสาร ซึ่งใช้ในการควบคุมโมเด็มและทำหน้าที่จำลองเทอร์มินอลเท่านั้นเอง ตัวอย่างของโปรแกรมสื่อสารเหล่านี้เช่น Telix, Procomm Plus, Telemate เป็นต้น และควรเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการรับ-ส่งไฟล์โดยใช้โปรโตคอล zmodem ด้วย โดยทั่วไปศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตจะมีแผ่นดิสก์เก็ตสำหรับติดตั้งโปรแกรมลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ โดยผู้ใช้เรียกคำสั่ง install จากแผ่นดิสก์เก็ต จากนั้นโปรแกรมก็จะถูกติดตั้งลงในฮาร์ดดิสก์

3. Login, Logout

การเข้าสู่เครื่องโฮสต์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียวกับการเข้าไปใช้งานในระบบ LAN หรือเข้าไปใช้งาน BBS คือต้องใส่ชื่อและรหัสผ่านให้ถูกต้อง ( Login Name, Password ) เมื่อต้องการออกจากการใช้งานเครื่องโฮสต์ ก็พิมพ์คำสั่ง Logout หรือ exit ตัวอักษรเล็กกับใหญ่ ถือว่าเป็นคนละตัวกัน


ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเมืองไทย มี 16 ราย ได้แก่

1. ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย http://www.inet.co.th

2. บริษัท เคเอสซี คอมเมอร์เชียล อินเทอร์เน็ต http://www.ksc.net.th

3. บริษัท ล็อกซเล่ย์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จำกัด http://www.loxinfo.co.th

4. บริษัท สามารถไซเบอร์เน็ต จำกัด http://www.samart.co.th

5. บริษัท อินโฟนิวส์ จำกัด http://www.infonews.co.th

6. บริษัท เอเซีย ออนลายน์ จำกัด http://www..asiaaccess.net.th

7. กลุ่มบริษัทยูไนเต็ดคอมมูนิเคชั่น จำกัด http://www.wnet.net.th

8. บริษัท เอเน็ต จำกัด http://www.anet.co.th

9. กลุ่มบริษัทเทเลคอมเอเซีย จำกัด

10. บริษัท ดิไอเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด

11. บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีส วิศวการ จำกัด (มหาชน)

12. บริษัท ดาต้าลายไทย จำกัด

13. บริษัท สยามทีวี แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

14. บริษัท ชมะนันทน์กรุ๊ป จำกัด

15. บริษัท ซี เอส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

16. บริษัท คอมพิวเทค ไมโครซิสเต็ม จำกัด