เช้าวันนี้พวกเราจะไปทัศนศึกษาที่เขาใหญ่ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มกระดูกหมู ขนมปังปิ้ง น้องสะใภ้เป็นหัวเรือใหญ่เรื่องครัวและอาหารการกิน เตรียมเสบียง น้ำดื่ม ใส่รถ เผื่อเด็กๆ ต้องการ ที่โรงครัวมีโทรทัศน์ สามารถดูรายการได้ครบทุกช่อง ช่อง 3, 5, 7, 9, 11, ITV เวลา 09.00 น. พวกเรา 17 คน พร้อมรถ 2 คัน ออกเดินทางจากบ้านปากช่อง มุ่งหน้าเข้าเมืองทางตลาดปากช่อง เพื่อไปยังทางเข้าเขาใหญ่ด้านปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากบ้านปากช่อง ก็มาถึงทางขึ้นเขาใหญ่ จ่ายค่าผ่านทาง แล้วขับตามกันไปเรื่อยๆ ต้นไม้สูงใหญ่ช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดี ถนนราดยางอย่างดี มีป้ายบอกสถานที่ และคำแนะนำไปตลอดทาง รถที่มาเขาใหญ่ด้านนี้มีไม่มาก เมื่อถึงจุดชมวิว พวกเราก็จอดรถออกมาชมวิวทิวทัศน์ และถ่ายรูปร่วมกัน
ขับต่อมาอีกประมาณ 20 นาที ก็ถึงศูนย์กลางที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณนี้มีอาคารหลายหลัง มีห้องน้ำชาย-หญิง หลายหลัง ภายในสะดุดตา ที่มีการจัดสวนภายในห้องน้ำ ประดับประดาด้วยไม้ประดับ นอกจากนี้ บริเวณลานที่มีป้ายอุทยานฯ จะมีปฏิมากรรมรูปช้างที่ทำด้วยท่อนไม้ขนาดต่างๆ บริเวณนี้ยังมีต้นกฤษณาปลูกอยู่หลายต้น สูงใหญ่มาก มีอาคารแสดงนิทรรศการขนาดย่อม ภายในอาคารมีห้องจำหน่ายของที่ระลึกของอุทยานฯ ด้วย พวกเราเลยช่วยอุดหนุนของที่ระลึกประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า ฯลฯ เป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนแห่งนี้
หลังจากทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พวกเราวางแผนการเดินทางว่าจะไปน้ำตกเหวสุวัตเป็นแห่งแรก ที่สำนักงานอุทยานฯ มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวไว้ละเอียดมาก บอกเส้นทางลงเขาใหญ่ 4 เส้นทาง 4 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครนายก นครราชสีมา และปราจีนบุรี เรายึดเส้นทางไปเหวสุวัต วิ่งมาได้ 10 กว่านาทีก็พบเก้งหม้อออกมาเดินอยู่ริมถนน วิ่งต่อมาอีก 20 กว่านาทีมีป้ายบอกว่าเป็นบริเวณทางช้างผ่าน พอเลยมาเล็กน้อยก็มองเห็นช้างป่าตัวที่ 1 เดินออกมาจากชายป่า ลงมาเดินบนผิวถนนสัก 2-3 นาที แล้วก็เดินเข้าไปในป่าข้างทาง พวกเราขับรถต่อไปอีก 5 นาที ก็มองเห็นช้างป่าตัวที่ 2 ออกมาเดินบนถนน พวกเราค่อยๆ ขับรถตามไปเรื่อยๆ จนมีรถ HONDA สีแดงขับเลี้ยวโค้งมาพบช้างก็หยุด ช้างป่ายังเดินไปบนถนนเรื่อยๆ ใกล้รถ HONDA ทุกที จนรถ HONDA ตัดสินใจถอยรถไปไกลพอสมควร พวกเรายังขับตามช้างไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ช้างป่าตัวที่ 2 ก็เดินเข้าชายป่าไป
พวกเราตื่นเต้นกับเหตุการณ์พบช้างป่าถึง 2 เชือก โดยเฉพาะเด็กๆ ต่างตื่นเต้นดีใจ ผิดกับผู้ใหญ่ที่รู้สึกกลัว เกรงว่าช้างจะวิ่งมาเล่นงานรถของพวกเรา ขับรถต่อมาอีกประมาณ 15 นาทีก็ถึงน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวสุวัตในเดือนเมษายนมีปริมาณน้ำน้อยมาก เนื่องจากมีฝนตกเป็นจำนวนน้อย มีพวกเราและชาวต่างประเทศ 2 คนมาถ่ายรูป มีนักศึกษาอาสาสมัครมาขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการส่งเสริมให้ประชาชนมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ลงจากเขาใหญ่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ก็หาร้านอาหารแถวปากช่องทานกัน หลังจากทานอาหารกลางวัน พวกเราจะไปเที่ยวภูพิมาน รีสอร์ท ใกล้ๆ กับบ้านปากช่องของพวกเรา ภูพิมานรีสอร์ทมีที่พักเป็นห้องๆ แบบโรงแรมทั่วไป และมีแบบเป็นหลังๆ นอกจากนี้ยังมีคอนโดมิเนียมและที่ดินจำหน่ายให้ผู้สนใจ มีผู้มีเงินหลายรายมาซื้อที่ดินบริเวณนี้และสร้างบ้านพักขนาดใหญ่ บริเวณใจกลางของที่ดิน จัดแต่งเป็นสวนไม้ดอก และมีแบ่งจำหน่ายให้ผู้สนใจในราคาไม่แพง
พวกเราเลยถ่ายรูปกับสวนสวยแห่งนี้ และเดินเล่นชมบรรยากาศที่นี้ จากนั้นก็แวะไปซื้อต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ หลายชนิด ราคาต้นละ 30-50 บาท เพื่อนำกลับไปปลูกที่บ้านปากช่อง
ที่บริเวณตลาดปากช่อง มีร้านจำหน่ายสุกี้ HOT POT สาขาปากช่อง พวกเราเลยไปทานอาหารเย็นกันที่นี่ ลูกค้าไม่หนาแน่นเหมือนที่กรุงเทพฯ แต่การบริการดีเท่าเทียมกับกรุงเทพฯ ผู้จัดการร้านอัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกค้า พวกเด็กๆ สั่งเป็ดย่าง หมูแดง อาหารสุกี้ ถึง 2 รอบ ทานกันเสร็จแล้ว ยังตามด้วยไอศกรีมอีกคนละถ้วยใหญ่ สังเกตว่าเด็กๆ กินจุกว่าผู้ใหญ่มาก กลับถึงบ้านปากช่องประมาณ 3 ทุ่ม แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่าเข้านอน พวกผู้ชายยังนั่งเล่น พูดคุย กันจนดึก 5 ทุ่มกว่า กว่าจะเข้านอน ตื่นเช้ามาผมก็เตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ การพักผ่อนที่บ้านปากช่อง ปี 2548 ก็จบลงด้วยดี หากมีอะไรน่าสนใจ ก็จะมาเล่าให้ฟังอีกครับ