อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา นครนายก สระบุรี และปราจีนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2505 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 206 กิโลเมตร หรืออยู่ห่างจากนครราชสีมา 115 กิโลเมตรโดยแยกถนนมิตรภาพเข้าถนน ธนะรัชต์ ไปที่ทำการอุทยานฯ เป็นระยะทางอีก 40 กิโลเมตร |
|
ผู้ที่โดยสารรถประจำทางจากกรุงเทพฯให้ลงที่อำเภอปากช่องแล้วเช่าเหมาสองแถวจากปากช่องขึ้นเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีเนื้อที่ 2,168 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน มีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้าและป่าละเมาะ เขาใหญ่เป็นต้นน้ำของลำตะคอง และแม่น้ำนครนายก สัตว์ที่พบมากคือ ช้างป่า ลิง กวาง เม่น ผีเสื้อ แมลงต่างๆ และนกนานาชนิดโดยเฉพาะนกเงือกซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานนี้ พบมากในเดือนสิงหาคมและกันยายน นอกจากนี้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวยังมีการจัดนิทรรศการสัตว์ป่าเพื่อให้ความรู้แก่ผู้มาเที่ยวชมในเขตอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่มีน้ำตกมากมายกว่า 20 แห่ง เช่น น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวไทร น้ำตกเหวประทุน น้ำตกกองแก้ว และน้ำตกเหวนรกทางอุทยานได้จัดทำเส้นทางเดินป่า สำหรับศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางสามารถ ขอคำแนะนำได้จากเจ้าหน้าที่ของอุทยานหรือสอบถาม รายละเอียดได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ |
|
เขาใหญ่เป็นอีกที่หนึ่งที่เราเลือกไป เวลาที่ไม่มีที่ไป เพราะรู้สึกว่าไปสะดวกไม่ลำบากเท่าไร ถ้ามีรถไปเอง เบื่อบรรยากาศกรุงเทพฯ ไปนอนตากดาวสักคืนสองคืน ความรู้สึกดีขึ้นเยอะ การเดินทางของเราส่วนมากจะขับรถไปเอง แต่ในใจก็หวั่นๆนะ ว่ารถเราจะถึงหรือป่าว เพราะเป็นรถปิคอัพ (มือ 8) ก่อนที่เราจะมุ่งตรงไปเขาใหญ่ เราก็จะแวะเที่ยวที่ต่างๆไปเรื่อย เพราะในการไปของเราส่วนมากจะมีกันแค่ 2 คน อยากแวะก็แวะ ถึงเวลาใกล้ๆเย็นค่อยขึ้นเขาใหญ่ ด้วยสถาพรถของเราเป็นรถปิคอัพไม่มีหลังคา ทำให้ถูกตาต้องใจกับกลุ่มนักโบกเป็นอย่างมาก เพราะเราจะเป็นรถที่บรรทุกคนขึ้นเขาด้วยทุกครั้ง แต่ยินดีนะเพราะก็ได้เพื่อนร่วมทางอีกกลุ่มนึง ถึงจะแค่ระยะสั้นก็ตาม ถ้าเราไปหน้าเทศกาลวันหยุดเยอะๆ มักจะไม่มีที่กางเต็นท์ ต้องระเห็ดไปไกลจากจุดกางเต็นท์ หลายลี้ แต่ก็มีคนแอบตามไปกางใกล้ๆกันก็พอมีบ้าง ตัวอยู่ในเต็นท์ เอาหัวออกมาข้างนอก นอนดูดาว อาจจะไม่ใช่ทะเลดาว เหมือนภูกระดึง แต่ก็สวยเหมือนกัน บางช่วงของการไป น้ำอาจไม่ไหล หรือน้ำไม่พอก็ไม่รู้ ไม่มีน้ำเลย ไม่มีก็ไม่ต้องอาบ สบายอยู่แล้ว แต่ทำธุระส่วนตัวนี่ซิ อาจจะลำบากนิดหน่อย ช่วงกลางคืนหลายกลุ่มเล่นไพ่ หลายกลุ่มเมา บางกลุ่มออกส่องสัตว์ แต่สำหรับเราขอนอนดูดาวดีกว่า เคยไปครั้งหนึ่ง มีกลุ่มคนที่มาเที่ยว มาหลายคนมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เต็นท์หมด เสื่อหมด น่าสงสารมาก นอนกันกับพื้นนั่นแหละ จำได้ว่าช่วงนั้นอากาศเย็นมาก คงตื่นมาหัวเป็นเกร็ดน้ำแข็งแน่ แต่คงใช้ดีกรีของความเมาเลยอยู่รอดมาได้มั้ง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะ เช่นเล่นน้ำตก เดินสำรวจป่า นั่งรถส่องสัตว์ ขี่จักรยาน ก็แล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหน แต่เราเลือกที่จะเดินสำรวจป่า (เฉพาะที่เขาให้เดินนะ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เพราะไม่มีคนนำ) ก็ทำเอาเมื่อยเหมือนกัน ถึงเวลาก็คงต้องกลับสู่กรุงเทพฯ ใช้ชีวิตดิ้นรนแข่งกับเวลาต่อไป ลาก่อนเขาใหญ่.........แล้วฉันจะกลับมาอีกนะ................