คุณนาย...

 

ช็อคโกแลต ดีจริงหรือ??

ขึ้นชื่อว่า ช็อคโกแล็ต บรรดานักชิมคงจะอดใจยากที่จะไม่ลิ้มลอง ตัวเลขบนตราชั่งที่ทำให้นักชิมทำใจไม่ได้ คือผลที่ตามมาหลังจากจัดการ กับของหวานชิ้นโปรดไปแล้ว เอ.. อย่างนี้ก็เท่ากับ ช๊อกโกแล็ต กินแล้วอ้วน แล้วผลร้ายอื่นๆที่ตามมามีหรือเปล่านะ น่าสงสัย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ช๊อกโกแล็ตให้คุณหรือโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณรับประทานมันเข้าไป เมื่อไม่นานมานี้ มีการรายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคช๊อกโกแล็ต ขนมหวานยอดนิยมในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ที่ว่า ช๊อกโกแล็ตนั้น มีสาร antioxidant เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ดูเหมือนว่า ช๊อกโกแล็ตเป็นอาหารเสริมสุขภาพเสียมากกว่าจะเป็นของหวานทำลายสุขภาพซึ่งก็จริงอยู่ที่ว่าช๊อกโกแล็ตนั้นมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมีคุณประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ แต่ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปแล้วละก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินอันเป็นสาเหตุของโรคร้ายอีกหลายชนิดจากรายงานล่าสุดของ American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับประทานช๊อกโกแล็ตนั้น จะมีความสัมพันธ์กับการได้รับปริมาณช๊อกโกแล็ตและโกโก้เพียงเล็กน้อยโดยเมื่อเรารับประทานช๊อกโกแล็ตดำประมาณครึ่งออนซ์ หรือแป้งโกโก้ที่ไม่ใส่น้ำตาล 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ ความสามารถในการ antioxidant ของร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ และ LDL ซึ่งเป็น bad cholesterol ก็จะลดลงด้วย โดย antioxidant นั้นเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจทั้งโกโก้ และช๊อกโกแล็ต มีส่วนประกอบสำคัญเรียกว่า Flavonoid ซึ่งพบได้ในผักและชา Flavonoid นี้ สามารถป้องกันเซลของร่างกาย ไม่ให้ทำปฏิกริยากับอณูที่เรียกว่า Free Radical ซึ่งเป็นตัวการในการของโรคหัวใจและการก่อให้เกิดเซลมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีรายงาน ของ Journal of Agricultural and Food Chemistry ที่ระบุว่าสาร Antioxidant ของโกโก้นั้น ให้ผลไม่ต่างจากชาดำและชาเขียว ในขณะเดียวกันบทความใน Experimental Biology and Medicine ก็ระบุว่า สาร Antioxidant ในโกโก้ และช็อคโกแลต ยังสามารถป้องกันเซลจากความเสียหาย อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพัฒนาเซลมะเร็ง อีกทั้งส่วนประกอบในโกโก้ ยังสามารถสกัดกั้นการเติบโตของเซลมะเร็งลำไส้ ในร่างกายมนุษย์ได้ด้วย

ชีส (Cheese)

เมื่อเอ่ยถึง ชีส (cheese) หลายท่านคงเข้าใจว่า ชีส ก็คือ เนย แต่ที่จริงแล้ว เนย คือไขมันล้วน ๆ ที่ถูกแยกออกมาจากไขมันนมสด สำหรับ ชีส คือผลิตภัณฑ์นม ซึ่งเปลี่ยนลักษณะไปเป็นของแข็งด้วยกระบวนการทางอุตสาหกรรมอาหาร โดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ลงไปในนม ให้นมจับกันเป็นลิ่ม และแยกตัวเป็นชั้นของแข็งเรียกว่า “เคิร์ด” ซึ่งในส่วนนี้จะถูกนำมาทำเป็น ชีส และในชั้นของเหลวเรียกว่า “เวย์” ที่มีคุณค่าทางอาหารจะถูกนำไปเลี้ยงสัตว์ บางครั้งยังสามารถนำไปทำยา หรือเครื่องบำรุงผิว

เมื่อทราบว่า ชีส คืออะไรแล้ว ต่อไปจะเล่าว่า ชีส มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไรบ้าง ชีส เป็นแหล่งอาหาร ที่ประกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส สังกะสี สูงไม่แพ้นม และวิตามินบี 12 ของอาหารประเภทมังสะวิรัตน์อีกด้วย ขณะที่มีน้ำตาลแลคโตสในอัตราที่ต่ำกว่านม ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาในการดื่มนม

นมสด (Milk)

เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า นมเป็นอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้เด็กเจริญเติบโต รัฐบาลไทยก็มีนโยบายส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมเพื่อสุขภาพที่ดี ประเทศต่างๆ ที่เด็กมีการเจริญเติบโตดี เช่น สหรัฐอเมริกา ประเทศต่างๆ บางประเทศในยุโรป โดยเฉลี่ยจะมีการดื่มนมเป็นปริมาณที่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับคนไทย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ เด็กญี่ปุ่นที่เกิดหลังสงครามจะมีการเจริญเติบโตดีทัดเทียมกับคนตะวันตก เหตุผลอันหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยเพิ่มปริมาณโปรตีนจากอาหารประเภท เนื้อสัตว์ นม และปลา (ซึ่งเป็นอาหารที่มีโปรตีนชนิดสมบูรณ์) ส่วนปริมาณข้าวที่รับประทานจะลดลง สำหรับนมสด จะมีสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และน้ำ ปริมาณสารอาหารบางชนิดจะมีมาก ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนั้นในปริมาณที่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการหากดื่มเป็นประจำนมสด มีไขมันประมาณร้อยละ 3.7 คาร์โบไฮเดรตประมาณร้อยละ 4.6 โปรตีนประมาณร้อยละ 3.5 และพลังงานประมาณ 6.5 กิโลแคลอรีต่อนม 100 กรัม หากดื่มนมวันละ 1 แก้ว หรือ 1 กล่อง ประมาณ 240 ซีซี จะได้พลังงานประมาณ 156 กิโลแคลอรี โปรตีนประมาณ 8.4 กรัม ไขมันประมาณ 8.9 กรัม นอกเหนือจากสารอาหารดังกล่าว นมสดยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งทั้งแคลเซียม และฟอสฟอรัสเป็นเกลือแร่ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูก และฟัน โดยเฉพาะในเด็กหากได้ดื่มนมวันละ 1-2 กล่อง (ประมาณ 240-480 ซีซี) จะช่วยให้ร่างกายโดยเฉพาะด้านความสูงจะดีกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มนมอย่างไรก็ตามการดื่มนมอย่างเดียวมากๆ อาจไม่มีผลต่อความสูงเท่าใด หากมิใด้มีการออกกำลังกายที่จะช่วยพัฒนาความสูงควบคู่กันไปด้วย

ช็อคโกแลต || ชีส || นมสด