สายๆ ของวันที่ 9 กันยายน ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เชื่อถือในเรื่องโชคลางอาจลืมไปว่า การเลือกเดินทางไปเยือนประเทศทากิจกีสถานในวันนี้ถือเอาฤกษ์กบฎ 9 กันยา เข้าพอดิบพอดี
เพราะเมื่อ 21 ปีก่อนพล.ต.มนูญ รูปจรและคณะนำรถถังออกมาโค่นรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ล้มเหลว
และในวันที่พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มโปรแกรมทัวร์ถอยหลังสู่ภาวะซัดเซพเนจรครั้งนี้ ยังเป็นวันที่คณะนักวิชาการไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาเพื่อประกาศเจตนารมณ์หยุดระบอบทักษิณ พร้อมชู"ป๋าเปรม"เป็นแบบอย่างของคนไทยอีกด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ ไปขึ้นเครื่องที่บน.6 ท่ามกลางการอารักขาของหน่วยทหารพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สงครามครบมือเพื่อยังกลิ่นของคาร์บอมบ์และรัฐประหารยังไม่จาง
วันรุ่งขึ้น 10 กันายน กลิ่นปฏิวัติเริ่มโชยหนักขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเดินทางไปถึงกรุงเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ เพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซ็มได้พูดกับนักข่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้พูดเรื่องปฏิวัติด้วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องของข่าวลือและการปล่อยข่าว
แต่ที่เมืองไทย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหมปฏิบัติการดับเครื่องชน รัฐบาลและพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ฐานยุ่มย่ามโผย้ายทหาร โดยที่พล.อ.ธรรมรักษ์ประกาศจะเล่นงานตามกฎหมาย
ขณะที่จ่ายักษ์ ตัวละครสำคัญคดีคาร์บอมบ์ระบุว่า มีนายพล 3 นายแห่งกองทัพบก เข้าร่วมขบวนการลอบสังหารนายกฯ
วันที่ 11 กันยายน เสร็จสิ้นการประชุมอาเซ็มที่ประเทศฟินแลนด์
พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดเป็นไข้ขึ้นมากระทันหัน จึงพาคณะเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเตรียมเข้าร่วมประชุ่มกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่ประเทศคิวบา
พ.ต.ท.ทักษิณ พุดติดตลกกับนักข่าวว่า ที่ยังไม่กลับประเทศไทยนั้น"ไม่ใช่เพราะขอลี้ภัย"