Marie Curi

ผลงาน

เสียชีวิตเพราะได้รับผลกระทบจากกัมมันตรังสีของ Ra ทำให้ไขกระดูกถูกทำลาย

 

" น่าชื่นชมกับความสำเร็จของของมาดามมารี คูรี่ จังเลยเนอะ"

 

"ทำไมล่ะ ? "

" พอดี ฉันได้อ่านประวัติของเธอมา

แล้วรู้ว่าเธอเป็นผู้ค้นพบธาตุเรเดียม (Ra)

แต่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยกัมมันตภาพรังสีของธาตุเรเดียม (Ra) เอง "

 

"แล้วกัมมันตภาพรังสีมันคืออะไรเหรอ ?"

"กัมมันตภาพรังสีเกิดจากการสลายตัวของนิวเคลียสของธาตุบางชนิดที่ไม่เสถียร

ทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงานในรูปของรังสีแอลฟา ( α ) , รังสีเบต้า (β ) และรังสีแกมมา ( γ ) "

" แล้วรังสีแต่ละชนิดคืออะไร ? "

" รังสีแอลฟาก็คือรังสีที่ไม่มีประจุ มีสัญลักษณ์เป็น ซึ่งเป็นนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม มีอำนาจทะลุทะลวงต่ำ ธาตุที่เกิดขึ้นใหม่จะมีเลขมวลลดลง 4 เลขอะตอมลดลง 2

ตัวอย่างของธาตุที่สลายตัวแล้วให้รังสีแอลฟา ได้แก่ , fมีการสลายตัวเป็นไปตามสมการ "

 

 

แล้วรังสีเบต้า ล่ะ ?

 

รังสีเบต้า ( ) คืออิเล็กตรอน ( ) หรือโพสิตรอน ( ) ที่มีพลังงานสูง ๆ ซึ่ง โพสิตรอนเป็นอนุภาคที่คล้ายกับอิเล็กตรอนทุกอย่าง แต่มีประจุเป็นบวก

ตัวอย่างธาตุที่สลายตัวให้รังสีเบต้าเช่น , ซึ่งมีการสลายตัวเป็นไปตามสมการ

+ +

+ +

 

"เคยได้ยินว่า C-14 ใช้ในการหาอายุของวัตถุโบราณใช่ไหม ? แล้วจะมีหลักการหายังไง ? "

" ก็คือการที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ภายในร่างกายจะมีอัตราส่วนของ

C-14 กับ C-12ซึ่งมีค่าคงที่ประมาณ แต่ถ้าสิ่งมีชีวิตได้ตายลงปริมาณ C-14 จะมีจำนวนลดลง

ซึ่งเราสามารถหาปริมาณของ C-14 กับ C-12 ที่อยู่ภายในร่างกายแล้วหาจำนวน C-14 ที่หายไป แล้วนำมาคำนวณกับค่าครึ่งชีวิตของ C-14

เราก็จะทราบอายุของวัตถุนั้นว่าได้ตายมานานเท่าไรแล้ว (ซึ่งค่าครึ่งชีวิตก็คือระยะเวลาที่ธาตุมีปริมาณลดลงจากของเดิมครึ่งหนึ่ง) "

แล้วทำไม C-12 ถึงไม่สลายตัวบ้างล่ะ ?

" ก็เพราะว่า C-12 เป็นธาตุที่เสถียรว่า C-14 ซึ่งธาตุที่เสถียรโดยส่วนใหญ่จะมีจำนวนนิวตรอน (n)

เท่ากับจำนวนโปรตอน (p) แต่ C-14 มีจำนวนนิวตรอนมากกว่าจำนวนโปรตอน ดังนั้นจึงมีการแผ่รังสีเบต้า

เพื่อเพิ่มจำนวนโปรตอน โดยธาตุใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือ ซึ่งมีจำนวนโปรตอน(6)เท่ากับจำนวนนิวตรอน(6) "

 

" อืม ถึงรังสีแกมมา ( ) แล้ว "

" ส่วนรังสีแกมมา () ก็คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานสูง รู้ไหมว่าสูงกว่า

รังสีเอ็กซ์อีกด้วยนะตัวอย่างธาตุที่แผ่รังสีแกมมาก็คือ ซึ่งจะมีการสลายตัวเป็นตามสมการโดยที่ คือธาตุที่อยู่ในสถานะกระตุ้น ซึ่งเป็นสถานะที่ไม่เสถียร

จึงมีการแผ่รังสีแกมมาออกมาเพื่อให้ลงมาอยู่ในสถานะพื้น ซึ่งเป็นสถานะที่เสถียร "

อ้างอิงจาก: http:// 203.158.100.140/ sarawut/ 25482/48 _ 2 _ModernPhy/NuclearPhysics 02. pdf

 

"แล้วรังสีแกมมามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?"

" ก็อย่างเช่นใช้ในการฆ่าเซลล์มะเร็ง ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในระยะแรกสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยการฉายรังสีแกมมาจากธาตุ Co-60 "

" แล้วรังสีชนิดไหนที่ใช้ในการทำแหนมอาบรังสีนะ ? "

" จริงๆ แล้วก็ใช้ได้ทุกรังสี เช่นรังสีแกมมาซึ่งได้จากการสลายตัวของธาตุ Co -60 หรือ Cs-137 รังสีเอ็กซ์ซึ่งได้จากเครื่องกำเนิดรังสีเอ็กซ์

รังสีอิเล็กตรอนที่ได้จากเครื่องเร่งอนุภาคของอิเล็กตรอน และการทำแหนมอาบรังสีมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะฆ่าเชื้อจุลลินทรีย์ ที่ทำให้เกิดโรค "

" แล้วรังสีเหล่านั้นจะตกค้างในแหนมหรือเปล่า ? "

" ไม่ตกค้าง เพราะรังสีแกมมาเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อผ่านเข้าไปในตัวกลางใดจะไม่ทำให้ตัวกลางนั้นเปลี่ยนเป็นสารรังสี

ดังนั้นอาหารที่ฉายรังสีจึงไม่มีรังสีตกค้าง และไม่มีการสะสมของรังสีขึ้น "

"แล้วเราจะมีโอกาสได้รับรังสีเหมือนกับมาดามมารีคูรี่หรือเปล่า ? กลัวอ่ะ "

"ไม่หรอกนะ เพราะรังสีแต่ละชนิดมีอำนาจทะลุทะลวงไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรังสีแอลฟากับเบต้า จะมีอำนาจทะลุทะลวงต่ำ

แค่กำแพงบ้านก็ป้องกันได้แล้ว ส่วนรังสีแกมมานั้นจะมีอำนาจทะลุทะลวงสูง

อาจจะต้องใช้กำแพงคอนกรีตหนาอย่างน้อย 1 เมตร จึงจะป้องกันได้

แต่รังสีแกมมาจะนำไปใช้ในทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ซึ่งมีระบบป้องกันเป็นอย่างดีแล้ว "

 

"วันนี้ได้ความรู้เรื่องรังสีมากเลย แล้วจะนำความรู้นี้ไปเผยแผ่ยังคนอื่น ๆ อีก ขอบคุณนะคะ "

 

" จ้า"