ข้อมูลที่ได้จาการวิจัย
ที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามหรือการสังเกต หรือการทดลอง
อาจจะอยู่ในรูปของข้อความหรือตัวเลข
จึงเป็นหน้าที่ของผู้วิจัยที่จะต้องทำการประมวลผลข้อมูลหรือทำการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถตอบวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้
· ความหมายของการประมวลผลข้อมูล
การประมวลผลข้อมูล
คือการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้ข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วอยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
· วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูล
1. จัดเตรียมข้อมูลให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะนำเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ต่อไป
2. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถตอบวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
· ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล
การประมวลผลข้อมูล
3 ขั้นตอนใหญ่
ๆ ดังนี้
1. การเตรียมข้อมูลเพื่อการประมวลผล (
Input Data )
2. การประมวลผลข้อมูล (
Processing )
3. การนำเสนอหรือแสดงผลลัพธ์ ( Output
)
· วิธีการประมวลผลข้อมูล
การประมวลผลข้อมูล มีวิธีการตามขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล ดังนี้
1. วิธีการเตรียมข้อมูลเพื่อการประมวลผล
2. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการประมวลผลข้อมูล
3. วิธีการแสดงผลลัพธ์
1. วิธีการเตรียมข้อมูลเพื่อการประมวลผล ประกอบด้วย
1.1
การเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่เก็บรวบรวมอาจได้จากเอกสารต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลทุติยภูมิ และ / หรือ เป็นข้อมูลปฐมภูมิ
ซึ่งเก็บรวบรวมจากหน่วยให้ข้อมูลโดยตรง ส่วนมากมักจะใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล
1.2
การตรวจสอบข้อมูล เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากเครื่องมือที่ได้รับคืนมาโดยสามารถตรวจสอบ ขณะอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล ( Field edit ) และตรวจสอบเมื่อได้ข้อมูลจากทุกส่วนแล้ว
( Central office edit )
1.3 การเปลี่ยนสภาพข้อมูล เป็นการเปลี่ยนสภาพของข้อมูลที่รวบรวมได้ให้อยู่ในรูปแบบที่สะดวกต่อการนำไปประมวลผล
หรือ วิเคราะห์ การเปลี่ยนสภาพข้อมูล
มีวิธีการ
ดังนี้
1.3.1 การสร้างรหัสสำหรับข้อมูล
1.3.2 การจัดทำคู่มือลงรหัส
1.3.3 การลงรหัส
1.3.1 การสร้างรหัสสำหรับข้อมูล
หลังจากที่ได้ข้อมูลมาแล้ว
ควรมีการกำหนดตัวแปร และกำหนดรหัส
หรือให้ค่าตัวแปร การกำหนดค่าของตัวแปรและการให้ความหมายของค่า มักจะใช้กับข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นส่วนใหญ่ เช่น เพศ อาชีพ ระดับการศึกษา ความคิดเห็นต่าง ๆ ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณมีการกำหนดค่าของตัวแปร ซึ่งมีค่าตามค่าปริมาณจริง
ไม่จำเป็นต้องให้ความหมายของค่า
ในการกำหนดรหัส หรือให้ค่าตัวแปรมักทำควบคู่ไปกับการออกแบบสอบถาม นั่นคือ
จะต้องพิจารณาถึงตัวแปร ซึ่งคำถาม 1 ข้อ จะสร้างตัวแปรได้อย่างน้อย 1 ตัว และค่าของตัวแปรคือ ข้อมูล โดยทั่วไปแบบสอบถามจะกำหนด หรือมีช่องให้ใส่รหัสไว้ทางด้านขวามือของแบบสอบถาม ดังแสดงไว้ในรูปที่ 1
สถานภาพส่วนบุคคล 1. เพศ ( ) 1.ชาย ( ) 2. หญิง 2. อายุ ………ปี 3. การศึกษาสูงสุด ( ) 1. มัธยมต้น
(
) 4. ปริญญาตรี ( ) 2. มัธยมปลาย /
ปวช.
(
) 5. สูงกว่าปริญญาตรี ( ) 3. อนุปริญญา / ปวส. ( ) 6. อื่น ๆ (ระบุ)….. 4. รายได้ต่อเดือน ( ) 1. ไม่มีรายได้
(
) 5. 30,000-49,990 ( ) 2. ต่ำกว่า 5,000 บ.
(
) 6. 50,000-100,000 ( ) 3. 5,000 -9,999 บ.
(
) 7. มากกว่า 100,000 บ. ( ) 4. 10,000-29,999 บ. |
เลขที่แบบสอบถาม……… SEX AGE EDUC INCOME |
จะพบว่าช่องสี่เหลี่ยมทางด้านขวาให้ใส่รหัสหรือค่าตัวแปรของแต่ละข้อ ทั้งนี้ผู้วิจัยควรทำสมุดคู่มือการกำหนดรหัสของตัวแปร
โดยจะกล่าวในหัวข้อต่อไป ส่วนการสร้างรหัส มีวิธีการ ดังนี้
1
) การกำหนดขนาดของตัวแปร
ขนาดของตัวแปร
แสดงถึงความยาวของตัวแปร
ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของตัวแปรหรือ ข้อมูล ดังนี้
ตัวแปรเชิงปริมาณ
เป็นตัวแปรที่มีค่าเป็นตัวเลขที่ระบุได้ว่ามากหรือน้อยกว่ากันเท่าไร เช่น ยอดขาย รายได้ น้ำหนัก ส่วนสูง ความยาว อายุ จำนวนคน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ จากรูปที่ 1 ตัวแปรที่เป็นปริมาณ ได้แก่ อายุ การกำหนดขนาดของตัวแปร ถ้าคิดว่า
อายุคนสูงสุดไม่เกิน 99 ปี ก็กำหนดให้มีจำนวนหลัก 2
หลัก
จึงมีช่องสี่เหลี่ยมไว้ 2
ช่อง
ตัวแปรเชิงคุณภาพ เป็นตัวแปรที่เป็นข้อความ เมื่อแปลงรหัสเป็นตัวเลข
จำนวนหลักของตัวเลขควรเท่ากับจำนวนหลักของตัวเลือกที่มีค่าสูงสุด เช่น จาก รูปที่ 1 ระดับการศึกษา หรือ ตัวแปร EDUC จะมีค่า 1 , 2 ,
……., 6 จึงเป็นหลักเลข 1 หลัก
จึงให้ช่องสี่เหลี่ยมไว้ 1 ช่อง
การสร้างรหัสของตัวแปรจะขึ้นอยู่กับชนิดของคำถามในแบบสอบถาม ดังนั้นในที่นี้จะกล่าวถึงวิธีการกำหนดรหัสโดยแบ่งตามชนิดของคำถาม ดังนี้
1. การกำหนดรหัสโดยแบ่งตามชนิดของคำถาม
การกำหนดรหัสของข้อมูลจะต้องคำนึงชนิดของคำถาม โดยที่ชนิดของคำถามแบ่งเป็น
1. คำถามปลายปิด ( closed -
end question )
ก. คำถามที่มีเพียงคำตอบให้เลือกเพียง 2 คำตอบ (
Dichotomous question ) เช่นคำถามข้อ 1
ในรูปที่ 1
ซึ่งถามเกี่ยวกับเพศของผู้ตอบจะมี 1
ตัวแปร คือ SEX ซึ่งเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ
หมายถึง คำตอบเป็นข้อความ คือ ชาย หรือ หญิง ผู้ตอบเลือกได้เพียงคำตอบเดียว ในที่นี้จะกำหนดว่าตัวแปร
SEX มีขนาด 1 หลัก
และมีค่าเพียงค่าใดค่าหนึ่ง จาก
2 ค่า คือ
1 หมายถึง ชาย
SEX =
2 หมายถึง หญิง
ค่าตัวเลขที่กำหนดแทนชายและหญิง เป็นรหัสที่แสดงถึงชายหรือหญิงเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าหญิงมีค่ามากกว่าชาย ในการใช้รหัสจะใช้เลข 0
แทนชาย เลข 1 แทนหญิงหรือใช้ 0 และ 1 แทนหญิงและชาย
ตามลำดับก็ได้ แต่ถ้าใช้แบบใดก็ต้องใช้แบบนั้นตลอดสำหรับแบบสอบถามทุกชุด
ข. คำถามที่มีคำตอบให้เลือกหลายคำตอบ ( Multiple choice questions )
เป็นคำถามที่มีให้เลือกหลายคำตอบ ผู้ตอบจะต้องเลือกคำตอบใดคำตอบหนึ่งเพียงคำตอบเดียวจากรูปที่ 1
คำถาม ข้อ 3 การศึกษาสูงสุด และข้อ 4
รายได้ต่อเดือน
ตัวแปร การศึกษาสูงสุด (
EDUC ) เป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ ส่วนตัวแปร
รายได้ต่อเดือน ( INCOME
) จะถือว่าเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ ( Category Variable ) เช่นเดียวกัน เพราะถึงแม้รายได้จะเป็นตัวเลข แต่เมื่อกำหนดให้เลือกเป็นช่วง ถ้าผู้ตอบมีรายได้ 25,000 บาท ต่อเดือน จะเลือกทางเลือกที่
( ) 4. 10,000-29,999 บาท ซึ่งถือว่าเลือกช่วงนี้หรือกลุ่มนี้ จึงถือว่าเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ ดังนั้นตัวแปร INCOME จึงเป็นตัวเลขที่แสดงถึงกลุ่ม และมีค่า 1
หลัก คือ เลข 1 , 2 , …….., 7
ค. คำถามที่สามารถเลือกคำตอบได้หลายคำตอบ (
Checklist questions )
กรณีที่คำถามมีคำตอบให้เลือกหลาย
ๆ คำตอบ และผู้ตอบสามารถตอบได้หลาย ๆ คำตอบ เช่น คำถามเกี่ยวกับการใช้สายการบิน ดังนี้
สำหรับท่านที่เดินทางไปต่างประเทศใน 6 เดือนที่ผ่านมา ท่านใช้สายการบินใดบ้าง ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ )
( ) 1.
Thai
Airline
(
) 2.
( ) 3.
( ) 4.
TWA
( ) 5.
สายการบินอื่น ๆ
การกำหนดตัวแปรหรือกำหนดรหัสสำหรับคำถามประเภทนี้ อาจทำได้หลายแบบ แต่ที่นิยม คือ Multiple dichotomy method
เป็นการกำหนดให้คำตอบแต่ละทางเลือกเป็น 1
ตัวแปร จากตัวอย่างมีทางเลือก
5 ข้อ จึงมี 5
ตัวแปร โดยที่แต่ละตัวแปรเป็น
dichotomous คือมีได้ 2
ค่า ถ้ากำหนดตัวแปร
5 ตัวแปร คือ V1 , V2 ……., V5
1 ถ้าผู้ตอบเลือก Thai Airline
V1 =
0 ถ้าผู้ตอบไม่เลือก
Thai
Airline
1
ถ้าผู้ตอบเลือก
Singapore Airline
V
2 =
0
ถ้าผู้ตอบไม่เลือก
Singapore Airline
1 ถ้าผู้ตอบเลือกสายการบินอื่น ๆ
V5 =
0 ถ้าผู้ตอบไม่เลือกสายการบินอื่น ๆ
ถ้าใน 6 เดือนที่ผ่านมา นาย ก. ใช้การบินไทย และ
TWA ตัวแปร V1
และV4 เป็น 1 V2 , V3 และ
V5 จะเป็น 0 ดังนั้น
ข้อมูลที่ต้องบันทึก คือ
1 0 0
1 0
V1 V2 V3 V4 V5
สำหรับการวิเคราะห์ เช่นการหาจำนวนผู้ใช้สายการบินต่าง
ๆ และสัดส่วน หรือเปอร์เซ็นต์จะสามารถแยกทำครั้งละตัวแปรหรือครั้งละสายการบิน เช่น ถ้าเก็บข้อมูลมา 100
คน
เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สายการบินต่างๆ มีดังนี้
การใช้
Thai Airline การใช้
|
รหัส |
ความถี่ |
เปอร์เซ็นต์ |
|
|
|
รหัส |
ความถี่ |
เปอร์เซ็นต์ |
ใช้ |
1 |
67 |
67.0 |
|
|
ใช้ |
1 |
25 |
25.0 |
ไม่ใช้ |
0 |
33 |
33.0 |
|
|
ไม่ใช้ |
0 |
75 |
75.0 |
รวม |
|
100 |
100.0 |
|
|
|
|
100 |
100.00 |
การใช้
Japan Airline การใช้ TWA
|
รหัส |
ความถี่ |
เปอร์เซ็นต์ |
|
|
|
รหัส |
ความถี่ |
เปอร์เซ็นต์ |
ใช้ |
1 |
54 |
54.0 |
|
|
ใช้ |
1 |
41 |
41.0 |
ไม่ใช้ |
0 |
46 |
46.0 |
|
|
ไม่ใช้ |
0 |
59 |
59.0 |
รวม |
|
100 |
100.0 |
|
|
|
|
100 |
100.00 |
ง. คำถามที่ให้คำตอบใส่ลำดับที่ ( Rank question )
เป็นคำถามที่มีรายการให้เลือก
โดยให้ผู้ตอบเปรียบเทียบรายการที่กำหนดให้ และใส่หมายเลขเมื่อเรียงลำดับความสำคัญ
อาจเรียงจากน้อยสุดไปมากสุด หรือมากสุดไปน้อยสุด
ตัวอย่าง
กรุณาเรียงลำดับความสำคัญของปัจจัยที่ทำให้ท่านเลือกเรียนคณะศึกษาศาสตร์ 3 ลำดับแรกโดยให้ปัจจัยที่สำคัญที่สุดเป็นลำดับที่ 1
รองลงมาเป็นปัจจัยที่ 2 และ 3
โดยให้ใส่ลำดับในวงเล็บหน้าข้อ
( ) 1. เป็นอาชีพที่ความมีเกียรติ
( ) 2. หางานง่าย
( ) 3. รายได้ดี
( ) 4. เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ถ้าน.ส.ราตรี เลือก เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ตามด้วย เป็นอาชีพที่ความมีเกียรติ และหางานง่าย เรียงลำดับตามความสำคัญจากมากไปน้อย 3
ลำดับ จะได้ค่า
E1 = 4
, E2 = 1 , E3 = 2
ดังแสดงในรูปที่ 2
![]() |
(
2 ) 1. เป็นอาชีพที่ความมีเกียรติ
(
3 ) 2. หางานง่าย 4
1
2
( ) 3. รายได้ดี E1 E2 E3
(
1 ) 4. เป็นประโยชน์ต่อสังคม
จ. คำถามทีให้แสดงระดับความมากน้อย ( Scale Questions )
คำถามประเภทนี้ส่วนใหญ่จะถามความคิดเห็น ความชอบ ความพอใจว่ามีมาก / น้อย เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สเกลที่แสดงระดับความคิดเห็นจะเรียงจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง เช่น จากไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง จนถึง เห็นด้วยอย่างยิ่ง จำนวนระดับของสเกลส่วนใหญ่มักจะเป็นเลขคี่ เช่น 3, 5 , 7 หรือ 9
ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ 5
หรือ 7 ระดับ โดยมีสเกลตรงกลาง
การกำหนดรหัสในกรณีที่เรียงจากไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งจนถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง หรือ
ไม่ชอบมากที่สุดจนถึงชอบมากที่สุด
จะให้ค่าจากต่ำสุดไปหาสูงสุด เช่น ในสเกล 5
ระดับ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งจะมีรหัสเป็น 1
จนถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง จะมีรหัสเป็น 5
นั่นคือ
ความคิดเห็น |
รหัส |
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่เห็นด้วย เฉย ๆ เห็นด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่ง |
1 2 3 4 5 |
2
) คำถามปลายเปิด (
Open -ended Question )
สำหรับคำถามให้แสดงความคิดเห็นซึ่งเว้นที่ให้ผู้ตอบเขียนนั้น ในการให้รหัสผู้วิจัยจะต้องพิจารณคำตอบเดียวกันหรือคล้ายกันเป็นรหัสเดียวกัน เช่นถ้าอ่านจากคำตอบแล้วพบว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน 13
แบบ อาจให้รหัสเป็น 01,02
,…….,13
1.3.2 การจัดทำคู่มือลงรหัส
ในกรณีที่มีจำนวนคำถามในแบบสอบถามมากๆ ผู้ใส่รหัสอาจจะจำรหัสได้ไม่ครบจึงจำเป็นต้องจัดทำคู่มือลงรหัส อันประกอบด้วย
ก. เลขที่แบบสอบถาม หมายถึงเลขที่ของแบบสอบถามที่ได้รับคืนกลับมา
การใส่เลขที่แบบสอบถาม จะทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลจากแบบสอบถามได้ง่าย ในกรณีที่มีการพิมพ์ข้อมูล เช่น
ถ้าพบว่าอายุของผู้ตอบจากแบบสอบถามชุดที่ 150 เป็น 99 ปี ทำให้สามารถตรวจสอบว่าพิมพ์ผิดหรือไม่ โดยตรวจสอบจากแบบสอบถามชุดที่
150
ข. เลขที่คำถาม (
Question Number )
เป็นเลขที่คำถามในแบบสอบถาม ผู้วิจัยจะกำหนดรหัสให้ตรงกับเลขที่ข้อในแบบสอบถาม
ค. ชื่อตัวแปร ( Variable Name )
ส่วนใหญ่มักจะกำหนดให้ชื่อตัวแปรสอดคล้องกับความหมายของข้อมูล เช่น เพศ
มักจะใช้ SEX
รายได้
เป็น INCOME เป็นต้น
ง. รายการของข้อมูล
จ. ขนาดของตัวแปร
เป็นการกำหนดความกว้างของตัวแปร ถ้าเป็นตัวแปรเชิงปริมาณ เช่น คะแนนสอบ
ตัวแปรอาจจะมีจุดทศนิยม
ต้องกำหนดจำนวนหลักหลังจุดทศนิยมด้วย
เช่น
ถ้าความกว้างของตัวแปร
คะแนนสอบ เป็น 8.2 หมายถึงมีจำนวนจุดหน้าจุดทศนิยม 5 หลัก และจำนวนหลักหลังจุดทศนิยม 2 หลัก ( เลข 8 รวมหมายถึงจำนวนหลักหน้าจุดทศนิยม จุดทศนิยมและจำนวนหลักหลังจุดทศนิยม )
ฉ. ค่าที่เป็นไปได้พร้อมคำอธิบายความหมาย
(
Possible Values or
Label )
หมายถึงส่วนที่จะระบุค่าที่เป็นไปได้ของตัวแปร เช่น ตัวแปร SEX มีค่า “ 0 ” หมายถึง ชาย และค่า “ 1 ” หมายถึงหญิง ส่วนเลข 9 หมายถึง ผู้ตอบไม่ตอบคำถามนี้ ( missing values )
ตัวอย่างการจัดทำคู่มือการกำหนดรหัสของแบบสอบถามเรื่องความพึงพอใจของการให้บริการของบริษัทดีทัวร์ ซึ่งจะสอบถามจากลูกค้าที่เคยใช้บริการของบริษัท ฯ
แบบสอบถามของการสำรวจ “ ความพึงพอใจของบริษัทแสนดีทัวร์ ”
ชื่อพนักงานสัมภาษณ์………………………
วัน เดือน ปี ที่สัมภาษณ์…………………..
I สถานภาพส่วนบุคคล
1. เพศ
( ) 1. ชาย
( ) 2. หญิง
2. อายุ ……ปี
3. การศึกษาสูงสุด
( ) 1. มัธยมต้น
( )
4. ปริญญาตรี
( )
2. มัธยมปลาย
/ ปวช.
( )
5. สูงกว่าปริญญาตรี
( ) 3. อนุปริญญา / ปวส.
(
) 6. อื่น ๆ
(ระบุ)…..
4. สถานภาพสมรส
( ) 1.
โสด
( ) 3. หย่า
( ) 2. แต่งงานแล้ว
( )
4. เป็นหม้าย
5.
รายได้ต่อเดือน
( ) 1. ไม่มีรายได้
( ) 4. 10,000-29,990 บาท
( )
2. ต่ำกว่า 5,000 บาท ( ) 5. 30,000-49,999 บาท
( )
3. 5,000 -9,999 บาท
(
) 6. 50,000 บาทขึ้นไป
6. อาชีพขอท่านในปัจจุบัน
( ) 1.
ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ ( ) 5. นักเรียน / นักศึกษา
( ) 2.
พนักงานธุรกิจเอกชน
( ) 6. กิจการส่วนตัว
( ) 3. แม่บ้าน
( ) 7. อื่น ๆ ระบุ
( )
4. เกษตรกร
II การเดินทาง
1. ท่านเดินทางไปต่างประเทศปีละ …… ครั้ง
2. จุดประสงค์ของการเดินทางไปต่างประเทศ
( ) 1. ธุรกิจ / ธุระอื่น ๆ
(
) 2. พักผ่อน
( ) 3. ทั้งพักผ่อนและธุรกิจ
/ ธุระอื่น ๆ
3. ส่วนใหญ่แล้วท่านเดินทางไปต่างประเทศกับใครบ้าง
( ) 1. ไปคนเดียว
( ) 2. ไปกับครอบครัว
( ) 3. ไปกับเพื่อนสนิท
4.
ปัจจัยที่ท่านเลือกใช้บริการของบริษัทแสนดีทัวร์
โดยให้เรียงลำดับความสำคัญ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดเป็นลำดับที่ 1 ปัจจัยที่สำคัญน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 4 โ ดยให้ใส่ลำดับที่ไว้ในวงเล็บ
( ) 1. ชื่อเสียงของบริษัท
( ) 2. ราคา
( ) 3. ช่วงเวลาที่เหมาะสม
( ช่วงเวลาที่ว่างตรงกับที่บริษัทแสนดีทัวร์จัด )
( ) 4. สายการบินที่บริษัทใช้
5. ท่านรู้จักบริษัทแสนดีทัวร์จากแหล่งใดบ้าง ( เลือกได้หลายคำตอบ )
(
) 1. ทางทีวี
( ) 2. ทางสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ใบปลิว
(
)
3. เพื่อน
/ ญาติ แนะนำ
(
) 4. สมุดโทรศัพท์
III ความพึงพอใจในการบริการของบริษัทแสนดีทัวร์
ท่านมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับบริการด้านต่าง ๆ ของบริษัทแสนดีทัวร์ ดังนี้
|
พอใจอย่างยิ่ง |
พอใจ |
เฉยๆ |
ไม่พอใจ |
ไม่พอใจอย่างยิ่ง |
1. การบริการด้านการจอง คำแนะนำ การติดต่อ 2. คุณภาพและรสชาดของอาหาร 3. การบริการของไกด์ 4.
ความรู้ ความสามารถของไกด์ในการนำเที่ยว 5. บริการด้านพาหนะ |
|
|
|
|
|
จากตัวอย่าง ซึ่งเป็นตัวอย่างบางส่วนของแบบสอบถามเพื่อสำรวจความพอใจของลูกค้าที่มีต่อบริการของบริษัทแสนดีทัวร์
เนื่องจากในที่นี้ใช้โปรแกรม
SPSS for Windows จึงไม่ต้องกำหนดเลขที่แบบสอบถาม
คำถามที่ |
ชื่อตัวแปร |
รายการข้อมูล |
ขนาดตัวแปร(จำนวนหลัก ) |
ค่าที่เป็นไปได้และความหมาย |
ข้อสังเกตุ |
1. |
SEX |
เพศ |
1 |
1. ชาย 2. หญิง 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้ คำตอบเดียว |
2. |
AGE |
อายุ |
2 |
15- 80 ( 99 ไม่ตอบ ) |
ระบุอายุจริง |
3. |
EDUCA |
การศึกษา |
1 |
1. มัธยมต้น 2. มัธยมปลาย / ปวช. 3. อนุปริญญา / ปวส. 4. ปริญญาตรี 5. สูงกว่าปริญญาตรี 6. อื่น ๆ 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้ คำตอบเดียว |
4. |
INCOME |
รายได้ต่อเดือน |
1 |
1. ไม่มีรายได้ 2. ต่ำกว่า
5,000 บาท 3. 5 ,000 - 9,999 บาท 4. 10 ,000 - 29,999 บาท 5. 30,000 - 49,999 บาท 6. 50,000 บาทขึ้นไป 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้ คำตอบเดียว |
5. |
OCCUPA |
อาชีพ |
1 |
1. ข้าราชการ/
รัฐวิสาหกิจ 2. พนักงานธุรกิจเอกชน 3. แม่บ้าน 4. เกษตรกร 5. นักเรียน / นักศึกษา 6. กิจการส่วนตัว 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้ คำตอบเดียว |
คำถามที่ |
ชื่อตัวแปร |
รายการข้อมูล |
ขนาดตัวแปร (จำนวนหลัก/ช่อง) |
ค่าที่เป็นไปได้และความหมาย |
ข้อสังเกตุ |
1. |
V1 |
จำนวนครั้งที่เดินทางต่อปี |
1 |
1. 0 -1 ครั้ง 2. 2 - 5 ครั้ง 3. 6 - 9 ครั้ง 4. ตั้งแต่ 10 ครั้งขึ้นไป 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้คำตอบเดียว |
2. |
V2 |
จุดประสงค์ของการเดินทาง |
1 |
1. ธุรกิจ / ธุระกิจ 2. พักผ่อน 3. ทั้งพักผ่อนแลธุรกิจ/ธุรกิจอื่น ๆ |
เลือกได้คำตอบเดียว |
3. |
V3 |
ผู้ที่เดินทางไปด้วย |
1 |
1. ไปคนเดียว 2. ไปกับครอบครัว 3. ไปกับเพื่อนสนิท 9. ไม่ตอบ |
เลือกได้คำตอบเดียว |
ปัจจัยในการเลือกบริษัททัวร์ |
|||||
4 |
V4 |
ชื่อเสียง |
1 |
1. เลือกเป็นลำดับ
1 2. เลือกเป็นลำดับ
2 3. เลือกเป็นลำดับ
3 4. เลือกเป็นลำดับ
4 9. ไม่ตอบ |
การให้ลำดับที่กำหนจำนวนตัวแปรเท่ากับจำนวนทางเลือก |
4 |
V5 |
ราคา |
1 |
1. เลือกเป็นลำดับ 1 2. เลือกเป็นลำดับ 2 3. เลือกเป็นลำดับ 3 4. เลือกเป็นลำดับ 4 9. ไม่ตอบ |
|
4 |
V6 |
ช่วงเวลาที่เหมาะสม |
1 |
1. เลือกเป็นลำดับ 1 2. เลือกเป็นลำดับ 2 3. เลือกเป็นลำดับ 3 4. เลือกเป็นลำดับ 4 9. ไม่ตอบ |
|
คำถามที่ |
ชื่อตัวแปร |
รายการข้อมูล |
ขนาดตัวแปร (จำนวนหลัก/ช่อง) |
ค่าที่เป็นไปได้และความหมาย |
ข้อสังเกตุ |
4 |
V7 |
สายการบินที่บริษัทใช้ |
1 |
1. เลือกเป็นลำดับ 1 2. เลือกเป็นลำดับ 2 3. เลือกเป็นลำดับ 3 4. เลือกเป็นลำดับ 4 9. ไม่ตอบ |
|
แหล่งที่รู้จักบริษัท |
คำถามที่ |
ชื่อตัวแปร |
รายการข้อมูล |
ขนาดตัวแปร (จำนวนหลัก/ช่อง) |
ค่าที่เป็นไปได้และความหมาย |
ข้อสังเกตุ |
5. |
V8 |
ทีวี |
1 |
0 : ไม่เลือก
1 : เลือก |
เลือกได้หลายคำตอบโดยกำหนดจำนวน |
5. |
V9 |
สื่อสิ่งพิมพ์ |
1 |
0 : ไม่เลือก
1 : เลือก |
ตัวแปรเท่ากับจำนวนทางเลือก |
5. |
V10 |
เพื่อน / ญาติ |
1 |
0 : ไม่เลือก
1 : เลือก |
|
5. |
V11 |
สมุดโทรศัพท์ |
1 |
0 : ไม่เลือก
1 : เลือก |
|
ส่วนที่ III ความพึงพอใจในการบริการ
คำถามที่ |
ชื่อตัวแปร |
รายการข้อมูล |
ขนาดตัวแปร (จำนวนหลัก/ช่อง) |
ค่าที่เป็นไปได้และความหมาย |
ข้อสังเกตุ |
1. |
U1 |
การจองแนะนำ ฯลฯ |
1 |
1ไม่พอใจอย่างยิ่ง 2ไม่พอใจ 3 เฉย ๆ 4 พอใจ 5 พอใจอย่างยิ่ง
9. ไม่ตอบ |
สเกลแสดงลำดับความพอใจ |
2. |
U2 |
อาหาร |
1 |
1ไม่พอใจอย่างยิ่ง 2ไม่พอใจ 3 เฉย ๆ 4 พอใจ 5 พอใจอย่างยิ่ง
9. ไม่ตอบ |
|
3. |
U3 |
บริการของไกด์ |
1 |
1ไม่พอใจอย่างยิ่ง 2ไม่พอใจ 3 เฉย ๆ 4 พอใจ 5 พอใจอย่างยิ่ง
9. ไม่ตอบ |
|
4. |
U4 |
ความสามารถ ของไกด์ |
1 |
1ไม่พอใจอย่างยิ่ง 2ไม่พอใจ 3 เฉย ๆ 4 พอใจ 5 พอใจอย่างยิ่ง
9. ไม่ตอบ |
|
5. |
U5 |
พาหนะ |
1 |
1ไม่พอใจอย่างยิ่ง 2ไม่พอใจ 3 เฉย ๆ 4 พอใจ 5 พอใจอย่างยิ่ง
9. ไม่ตอบ |
|
1.3.3 การลงรหัส
วิธีการลงรหัสโดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows จะต้องสร้างแฟ้มข้อมูล
และสิ่งที่ควรทราบก่อนสร้างแฟ้มข้อมูลโดยใช้ Data Editor จะต้องกำหนด ดังนี้
1) กำหนดชื่อตัวแปร ( Variable Name )
2)
กำหนดชนิดของตัวแปร
3) กำหนด label ของตัวแปร ( โดยเฉพาะตัวแปรที่เป็นคุณภาพ
)
4) กำหนดรหัสสำหรับค่าสูญหาย ( missing value )
5) กำหนดความกว้างของ column ( width )
1)
การตั้งชื่อตัวแปร ( Variable Name )
SPSS จะตั้งตัวแปรเป็น var 00001 ,
var00002 …… เป็น default สำหรับตัวแปรใหม่ การเปลี่ยนชื่อตัวแปรทำโดยการพิมพ์ชื่อใหม่แทนที่ ผู้ใช้ควรจะตั้งชื่อตัวแปรให้สอดคล้องกับความหมายของค่าของตัวแปร เช่น อายุ ควรตั้งเป็น age
ส่วนรายได้
ควรตั้งชื่อตัวแปร income เป็นต้น
กฏการตั้งชื่อตัวแปรของ SPSS
1.1 ความยาวของชื่อตัวแปรต้องไม่เกิน 8 ตัว
1.2 ชื่อตัวแปรต้องเริ่มต้นด้วยอักษรเท่านั้น ส่วนตัวอื่น ๆ อาจเป็นตัวอักษร ตัวเลข จุด หรือสัญลักษณ์พิเศษ เช่น @ ,# , - หรือ $
ก็ได้
1.3 ชื่อตัวแปรต้องไม่จบด้วยจุด
และควรหลีกเลี่ยงเครื่องหมาย “
_” ( ขีดล่าง
) เป็นตัวสุดท้าย
1.4 ห้ามใช้สัญลักษณ์พิเศษต่อไปนี้ในการตั้งชื่อตัวแปร ! ? ’ *
1.5 ชื่อตัวแปรในแฟ้มข้อมูลเดียวกันต้องไม่ซ้ำกัน
1.6 ตัวอักษรใหญ่หรือเล็ก จะถือเป็นตัวแปรเดียวกัน
เช่น
INCOME income inCOME ถือเป็นอย่างเดียวกัน
1.7 ห้ามตั้งชื่อต่อไปนี้เป็นชื่อตัวแปร
ALL
OR
GT
AND NOT GE WITH
ตัวอย่างชื่อตัวแปรที่ถูกต้อง INCOME satis
_1 locate#1 Y.1
ตัวอย่างชื่อตัวแปรที่ไม่ถูกต้อง 1 INCOME WITH and satis
1_
2) ชนิดของตัวแปร ( Variable Type )
นอกจากจะต้องตั้งชื่อตัวแปรแล้ว จะต้องมีการกำหนดชนิดของตัวแปร ตัวแปรหนึ่ง ๆ
จะต้องเป็นชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น
SPSS แบ่งตัวตัวแปรออกเป็น 8
ชนิด แต่ที่ใช้ทั่วไปเป็น Numeric
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
Numeric
เป็นตัวแปรชนิดตัวเลข ซึ่งรวมทั้งเครื่องหมายบวกหรือลบที่นำหน้าตัวเลข และรวมถึงจุดทศนิยม ถ้าเลือก
Numeric จะต้องกำหนดความกว้าง ( Width ) และจำนวนหลักของตัวเลขหลังจุดทศนิยม
( Decimal Places ) ด้วย เช่น ถ้ากำหนด
Decimal Places = 2
Width = 8
ความกว้าง 8
นี้ได้รวมจุดและจำนวนหลักจุดทศนิยมด้วย จึงเหลือจำนวนหลักของเลขหน้าจุดทศนิยมเป็น 5
หลัก หรือหลักหมื่นนั่นเอง
ผู้วิเคราะห์จะต้องพิจารณาค่าของข้อมูลตัวแปรว่าสูงสุดมีกี่หลัก
และกำหนดจำนวนหลักสูงสุดไว้
เราสามารถกำหนดความกว้างได้สูงสุด 40
หลักและจำนวนหลักหลังจุดทศนิยมสูงสุดเป็น 10
3)
การกำหนด Labels
กรณีที่ข้อมูลที่ได้เป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นชนิดสเกลนามกำหนด
หรือสเกลอันดับก็ตาม เมื่อนำข้อมูลใส่แฟ้มข้อมูลจะพิจารณาแปรเหล่านี้ในลักษณะของ category variable โดยที่ใน SPSS จะต้องกำหนดค่าตัวเลขให้แต่ละกลุ่มแล้วใส่ label เพื่ออธิบายความหมายที่แท้จริงของค่าตัวแปรไว้
เช่น คำถามเกี่ยวกับอาชีพ ซึ่งมีคำตอบให้เลือกดังนี้
1. นิสิต / นักศึกษา
2. ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
3. พนักงานธุรกิจเอกชน
4. เจ้าของกิจการส่วนตัว
5. อื่น ๆ
ถ้าตอบเป็นข้าราชการจะตอบ “2” แต่จะใส่ใน label ว่า “ 2 ” หมายถึง
ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหากิจ
4) การกำหนดค่าข้อมูลสูญหาย
( Missing Value )
ในการวิจัยครั้งหนึ่ง ๆ มักจะเกิดการสูญหายของข้อมูลบาส่วน เช่น แต่ละ case ควรมี 20
ตัวแปร แต่มีค่าของบางตัวแปรหายไป จึงเรียกว่า missing ซึ่งอาจเกิดจาการที่ผู้ตอบคำถมบางข้อ หรือผู้ใส่ข้อมูลเข้าลืมใส่ข้อมูลบางคำตอบ
อย่างไรก็ตาม SPSS ได้แบ่ง missing values ออกเป็น 2
ชนิด คือ
1. System - missing values
ถ้า cell ใดในแฟ้มข้อมูลไม่มีข้อมูลอยู่ หรือเป็น cell ว่าง โปรกรมจะให้ค่าเป็นจุด
(.) ซึ่งหมายถึง system-missing values
2. User - missing values
ผู้วิเคราะห์สามารถกำหนดค่าของ missing value ตามความหมายได้
5) การกำหนดความกว้างของ Column Format
SPSS จะกำหนดให้ความกว้างของ
column เท่ากับความกว้างของตัวแปรที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งชื่อตัวแปรจะยาวกว่าค่าของข้อมูล เช่น อายุ (AGE ) เราอาจกำหนดเป็นชนิด Numeric เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม 2
ตำแหน่ง
ความกว้างของ
column จะเป็น
2 อัตโนมัติ จะทำให้ชื่อตัวแปรเหลือเพียง 2
ตัว คือ AG จึงควรกำหนดความกว้างของ column เป็น 3
โดยการเปลี่ยนแปลงค่าความกว้างจาก 2 เป็น 3
…………………………………………………………
ตารางเลขสุ่ม
ภาคผนวก ค
ตารางสถิติต่างๆ