"หอโหลง" หรือพระราชวังหลวงของเจ้าฟ้าเชียงตุงที่สร้างด้วยศิลปะอังกฤษผสมอินเดีย ถือเป็นหอเจ้าฟ้าที่สวยสง่าที่สุดในรัฐฉาน อายุเก่าแก่ร่วม 80 ปี ปัจจุบันรัฐบาลพม่าสั่งรื้อถอนสร้างโรงแรมแทน

ด้วยความเอื้อเฟื้อของ ศิวะและการจัดการอย่างดีของภักดีและแตน”…วัลลภา  Senior Citizenship  สิงห์ดำ รุ่น 16 ที่รวบรวมกันได้ เกือบ 40 คน ก็สามารถจัด Meeting ที่เชียงตุงระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2548 …ที่อยากจะขนานนามว่า เชียงใหม่แต่ปางก่อนได้  แต่กว่าจะลงตัวว่าใครจะไปอย่างไร….รวมทั้งรายการเบี้ยว และ รายการขอแถม  ก็ทำเอาแตนเหนื่อยทีเดียว  เพราะความเป็นผู้ชรา  แม้ว่าจะมีรายการว่า  เดินทางโดยรถไฟถึงสถานีเชียงใหม่  มีรถรับจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปแม่สาย  เพื่อเริ่มรายการทัวร์ที่นั่น  แต่ก็มีหญิงและชายชราถึง   20  คน  ขอเดินทางโดยเครื่องบิน  ไปลงที่สนามบินเชียงราย  เพราะสังขารที่เริ่มจะร่วงโรย  จึงขอถนอมแรงไว้ตลุยเชียงตุง  ปล่อยให้ที่เหลือเป็นผู้แข็งแรงไปรถไฟกัน   

จากความเป็นผู้ชรานี่เอง  จึงมีวีรกรรมหลายๆ อย่างเกิดขึ้น เริ่มต้นด้วยป้าแตน..วัลลภา ตกรถทัวร์จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ที่จะไปเชียงตุง ทราบว่ายิ่งใหญ่มาก เพราะสามารถทำให้รถตำรวจกวดตามมาส่งที่รถทัวร์ระหว่างทางจนได้ 

ส่วนคณะที่เดินทางด้วยเครื่องบิน  ก็ไม่ยิ่งหย่อน  เพราะระหว่างที่พวกเราขึ้นไปนั่งรออยู่บนเครื่องบินแล้ว  หมู……ประธานตลอดกาลของพวกเรา ก็หันมาบอกว่า ศรีวัฒนา…..โทร.มาบอกว่าตกเครื่องบิน  มาไม่ทันขึ้นเครื่อง  และ flight ต่อไป เป็นบ่ายโมง  เพราะฉะนั้นคงจะมาไม่ได้แน่นอน….แต่พอเราไปถึงเชียงราย  ก็มีข่าวใหม่  บอกว่าศิวะ  ก็ติดภารกิจ  จะตามมา  flight  บ่ายโมง  และ จะนั่งรถตู้ตามไปสมทบกับพวกเราตอนเย็น  ทั้งคณะพรรค  ก็เลยระดมกันติดต่อศรีวัฒนา  ให้มาพร้อมศิวะ  flight  บ่ายโมง….แค่นี้  ป้า  ๆ …….ก็เริ่มจะเหนื่อยแล้ว 

เนื่องจากไปถึงก่อนพวกรถไฟ  เราก็เลยมีโอกาสไปจ่ายเงินกันที่ตลาดแม่สาย  ก่อนเข้าเชียงตุง  คุณแอน  ไกด์ผู้น่ารัก ให้คำแนะนำในเรื่องราคาของสินค้าไว้ล่วงหน้า  เพื่อกันไม่ให้ถูกแหกตา……..ปรากฏว่าสินค้าที่ซื้อกันอย่างเต็มใจคือร่มราคา 3 คันร้อย  เพราะระหว่างเดิน shopping กันอยู่เกิดฝนตกหนัก………

แม่ชีต๋อย….นอกจากซื้อของตัวเองแล้ว   ยังมีโอกาสทำบุญซื้อถวายพระ  ที่ท่านติดฝน  และกำลังจะซื้อร่มเหมือนกัน..ส่วน  คุณพริมอวดรองเท้าสุดจ๊าบ….ซื้อเพื่อทัวร์เชียงตุงโดยเฉพาะแต่ก็มาแพ้ภัยฝนแม่สายเกิดอาการป่วย  คาดว่ารองเท้าคงจะหมดอายุขัยเมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ……..

ศรีเทพมีเพื่อนติดตามไปด้วยอีก 2 คน คือ แป๋ว สุนทรี..เจ้าเก่า ทีเริ่มติดใจทัวร์สิงห์ดำตั้งแต่ครั้งไปเขาพระวิหาร  และ ..เปีย..ปนัดดา  สมาชิกใหม่ ที่ enjoy ทัวร์นี้มาก  ดู ๆ ไปจะมากกว่าศรีเทพซะอีก  เพราะตอนที่เราไปรำวง เต้นระบำ กับน้องๆ ชาวเชียงตุงทื่ร้านอาหาร  คุณเปีย เธอออกไปเต้นแบบ non stop เลยละ……คิดดู….รัฐศาสตร์ภาคสมทบเที่ยว มีได้เกือบทุก trip คราวระยองเราก็มีตุ้มระย้า

คราวนี้ชัยสิทธิ์  พา คุณหลา..ศรีภรรยาผู้น่ารักไปด้วยป้ารจนา ก็คงความ spirit  สูง  เพราะบินมาจากหาดใหญ่ พร้อมคุณสมเกียรติ  สำหรับรายการ ทัวร์เชียงตุง กับพวกเรา

หนาแน่นที่สุด คือ ก๊วนมาบุญครอง ไปกันครบครันทั้ง  อี๊ด..อุษา  ป้าวีทวีมาตร เปี๊ยกสุปราณี   ยอ..หญิง..สิริมา  พริม  เล็ก....สุมน  ต๊อบ  ป้าอัม...รา   ติ๋ม.วราภรณ์ และขาดไม่ได้  คือ คุณโอภาพรรณ  หัวหน้าทัวร์ของชาวมาบุญครองที่รับภาระหลายอย่างทั้งจองตั๋วให้สมาชิกที่ต้องการไปเครื่องบิน  ถ่ายรูปด้วยกล้อง Hi-tec   ส่งมาให้เพื่อนดูทาง e-mail……ใครไม่แจ้ง e-mail ไว้  ขอแสดงความเสียใจด้วย

ท่าน ธิบ  ของเพื่อนๆ  ปินปานตา  ก็ยังลาราชการศาลปกครองโคราช  มาเที่ยวกับพวกเราด้วย  จิ๊บนันทรัตน์   และพี่อ๊อด….ก็ไม่พลาดงานนี้  เหมือนกับ  นิด..นฤพร….และ ตุ๊ก...พัทยา….แดงจรัส...ศัลยา…..นักเขียนบทโทรทัศน์มือทอง   ก็มาร่วมรายการนี้  โดยขอสมทบเจอพวกเราที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เหมือนกับแม่เลี้ยงพิกุล ที่พาลูกสาวน่ารัก มาช่วยบริการ  คุณลุง….คุณป้า..

ส่วนแป้น/สญชัยให้ชื่อไว้ว่าจะมาพร้อมกับแป้น/ลัดดาวัลย์ แต่สุดท้าย ก็ฉายเดี่ยว  เพราะแป้น...หญิงเกิดอาการป่วยเพื่อนๆ นินทาว่า ท่าทางสญชัยรื่นเริงเชียวละ คุณแป๊ว...วัลลภาหมื่นปี  ของเพื่อน ๆ ยังคงพาหน้าและหุ่นที่ไม่บ่งบอกวัย  senior citizenship  มาช่วยเป็นธุระในหลาย ๆ เรื่องแป๊วจัดคู่นอนที่เชียงตุงได้ perfect มากค่ะเต่า...อรุณพรรณ ประหลาดใจมากที่ป้าก็ออกไปรำวง และเต้นรำแบบไม่เหน็ดเหนื่อย เหมือนกันหนูยอมแพ้ค่ะแป๊ะ...กฤตวิทย์….มาพร้อมกับกล้องคู่ชีพเช่นเคย ส่วนไพรสันต์ก็มาแบบฉายเดี่ยวเหมือนแป๊ะ………

ตกลงทัวร์นี้ฝ่ายหญิง ส่วนมากฉายเดี่ยว มีมาเป็นคู่ คือ ป้ารจนา และจิ๊บ แต่ฝ่ายชายฉายเดี่ยวแค่ แป๊ะ…กฤตวิทย์  แป้น…สญชัย และ ไพรสันต์  นอกนั้นมาเป็นคู่  แต่ก็มีอีก แค่  หมู  ภักดี และท่านอธิบดี…ศิวะ  รู้สึกฝ่ายหญิงจะถนัด เฮไหน ไปกัน มากกว่าฝ่ายชายนะคะ

ระยะทางจากแม่สายไปเชียงตุง  นั่งรถทัวร์ใช้เวลาร่วม ชั่วโมง  ผ่านด่านต่าง ๆ ทั้งของพลเรือน  ของทหาร  แถมด้วยของชาวบ้าน.. เอาเชือกกั้น มีกระเป๋องกระแป๋ง ผูกไว้ ขอเก็บค่าต๋งหน่อย  รวมแล้วประมาณ 4 ด่าน แต่ไกด์จะชำนาญดี  ลงไปเจรจาจ่ายไม่รู้เท่าไหร่  แต่ก็ทำให้เราผ่านไปด้วยดีทุกด่าน……

รถแล่นเลาะเลี้ยวไปตามไหล่เขา ทิวทัศน์ไม่แพ้ในยุโรป  ต้นไม้ยังเขียวชอุ่ม ไม่มีเขาหัวโล้นอย่างในบ้านเรา  ลึกลงไปในหุบเขาอีกฟากของถนน คือสายน้ำที่เชี่ยวกราก  เต็มไปด้วยเกาะแก่ง  ชนิดนักล่องแก่งต้องบอกว่ามัน

พวกเราถึงเมืองเชียงตุงตอนค่ำ เก็บกระเป๋า เข้าห้องพักในโรงแรมเขาว่าใหญ่ที่สุด และดีที่สุดมีโรงแรมเดียวเป็นของรัฐบาล รายการอาหารเย็นวันนั้นสนุกมาก  เพราะนอกจากอาหารอร่อยแล้ว  ยังมีการแสดงฟ้อนพม่าให้เราดูอีกหลายชุดด้วย  ชุดสุดท้ายเป็นการร่วมรำวง  ระหว่างนักศึกษาช่างฟ้อน…..ป้า และ ลุง เกือบทุกคนถูกโค้ง ไปรำวง…..การออกไปรำวง หรือเต้นรำ  ป้าๆ ต้องจ่ายค่าออกไปเหนื่อยด้วย   น้อง ๆ รวยกันน่าดูรายการนี้  เพราะเพลงละ 20 บาท  สุดท้ายคนเปิดเพลงไม่ยอมเลิก  ต้องไปขอร้องไกด์ ว่าป้า ๆ เหนื่อยกันเต็มทีแล้ว  ขอลาไปนอนก่อน  ถึงได้ยุติรายการนี้ได้

เช้าตรู่เราไปไหว้พระ ทีวัดหน้าโรงแรม  แล้วก็ไปตลุยตลาดสดเชียงตุง  ไกด์บอกว่ารายการนี้เรียกว่าตามรอยสมเด็จพระเทพฯ  อาหารเช้ามีทั้งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู และโรตี (พม่า)กับกาแฟ เพื่อนๆได้ของหลายอย่าง  เช่นยาหม่องชื่อก็บอกว่าต้องซื้อที่พม่า   แต่พวกเรามีความสามารถพิเศษมากๆ สามารถซื้อของชนิดเดียวกัน  ด้วยราคาที่หลากหลายมาก……..อาหารกลางวันมื้อสุดท้ายที่เชียงตุงเป็นอาหารจีน  แต่ก็มีเสียงเรียกร้องไข่เจียวๆ  ร้อนถึงคุณแป๊วหมื่นปีของเพื่อน ๆ ต้องไปลุยเองถึงในครัว  ….รายการทัวร์

เชียงตุงจบลงที่ตลาดท่าขี้เหล็ก  ชายแดนพม่า    พวกเราได้ไปย่ำตลาดถลุงเงินซื้อของ Brand Name  มากมายก่ายกองไม่รู้ใครได้อะไรมาบ้าง..เห็นแต่นักเขียนบทมือทองได้สร้อยเงินมาหลายเส้น  คนเขียนได้กำไลข้อมือเงิน  1   อันราคา 50 บาทปลื้มมาก ยังมีความสนุกอีกมากมาย  เกินบรรยาย  เช่น  อาหารเย็นสุดอร่อยที่ท่าตอน และรายการก่อนขึ้นรถไฟที่เชียงใหม่  ใครอยากรู้ว่ามันแค่ไหน  เชิญถามไถ่กันเอง  เพราะคนเขียนเมื่อยมือแล้วค่ะ

บทส่งท้ายเพราะการเดินทางที่แยกเป็น 2 กรุ๊ป  คือเครื่องบินและรถไฟจึงต้องมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกให้เป็นลูกเมียหลวง……ลูกเมียน้อยทะเลาะกันไปตลอดทาง  จนถึงขากลับ  ลูกเมียน้อย….คุณโอต้นคิดก็ยังอุตส่าห์โทรบอกลูกเมียหลวง..ศรีเทพว่า  ถึงกรุงเทพฯ ก่อน  จะไปบอกเจ้าคุณพ่อให้เปลี่ยนพินัยกรรม  ยกสมบัติให้พวกเราทั้งหมด ..ศรีเทพตอบว่าอย่างไร  ไม่มีใครสนใจเพราะลูกเมียน้อยสะใจตอนที่บอกไปแล้ว  ไม่มีใครอยากฟังคำตอบ   เสียใจด้วยนะ….ศรีเทพ…  เฉพาะเรื่อง ลูกคนละแม่นี้  ท่านธิบ คุณปินจากศาลปกครองโคราชขอร้องให้เขียนเป็นพิเศษค่ะ……จบรายงาน 

Last updated: 17/11/2548
Back to
Singdam16