Radiation Oncology Chulolongkorn University

พยาธิกำเนิด


[Previous Page][Next Page][Up][Home Page]


ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งปากมดลูก จากการศึกษาที่สามารถรวบรวมพอจะสรุป
ได้ดังนี้คือ
1. การร่วมเพศ การแต่งงาน และการตั้งครรภ์
พบว่าบุคคลที่เป็นโสดมีอุบัติการของการเกิดมะเร็งปากมดลูกต่ำกว่าผู้ที่แต่งงาน และมีบุตร
แล้ว นอกจากนี้อายุเมื่อแรกมีการร่วมเพศในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมักจะน้อยกว่าผู้ที่ไม่เป็น
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งมักจะมีประวัติสำส่อนทางเพศ และ/หรือ มีสามีหลายคน7,8 หรือสามีมีนิสัยชอบเที่ยว
ผู้หญิง ส่วนการตั้งครรภ์ พบว่า ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมักมีบุตรคนแรกเมื่ออายุน้อยหรือมีบุตรมาก
2. เรื่องขององคชาติ (Penile factor)
มีผู้รายงานพบความเกี่ยวเนื่องโดยตรงของสามีที่เป็นมะเร็งขององคชาติและภรรยาที่เป็น
มะเร็งปากมดลูก9 โดยสมมติฐานที่ว่าน่าจะเกี่ยวเนื่องจากการหมักหมมของเชื้อโรคที่บริเวณปากมดลูก
ระหว่างที่มีการร่วมเพศ นอกจากนี้ยังพบมะเร็งปากมดลูกในสตรีที่สามีไม่ได้ขลิบปลายองคชาติมากกว่าในสตรีที่สามีได้ทำการขลิบปลายองคชาติ 10-12
3. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
3.1 Human papilloma virus (HPV) พบไวรัสชนิดนี้ได้สูงถึงร้อยละ 90-95 ในผู้ป่วยมะเร็ง
ปากมดลูก 13-14 เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก และมีผู้รายงานว่า condyloma มีการ
เปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งได้ 15
3.2 Herpes simplex virus type 2 เป็น DNA ไวรัสที่มีขนาดใหญ่ มักจะเกิดพยาธิสภาพที่
บริเวณอวัยวะเพศ 16,17 นอกจากนี้ยังพบเชื้อไวรัสตัวนี้จาก smegma และจากเนื้อเยื่อของปากมดลูกที่
เป็นมะเร็ง และ CIN (cervical intraepithelial neoplasia) 18,19
3.3 Syphilis เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก จากการศึกษาของ Levin20 พบว่า
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเคยมีประวัติของการเป็นซิฟิลิส 3.9% ขณะที่ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งของอวัยวะ
อื่น ๆ พบว่าเคยเป็นโรคดังกล่าวเพียง 1.1%
3.4 Trichomoniasis มักพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก มีการอักเสบในช่องคลอดด้วยพยาธิตัวนี้
ได้บ่อย 21,22 และอาจทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เป็น dysplasia แต่ก็ยังไม่สามารถให้ข้อสรุป
ที่แน่นอนได้
3.5 การติดเชื้อบริเวณปากมดลูกอื่น ๆ 7 ได้แก่
- Chlamydia Trachomatis
- Neisseria gonorrhea
- Gardnerella vaginalis
- Mycoplasma hominis
- Cytomegalovirus
การติดเชื้อเหล่านี้อาจมีผลโดยทางอ้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุปากมดลูก บริเวณ
Transformation zone โดยเฉพาะกระบวนการ Epithelialization และ Squamous metaplasia ซึ่งเป็น
การเปลี่ยนแปลงของสรีรวิทยาตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่ Transformation zone นี้
อาจจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ HPV ง่ายขึ้น ทำให้เกิดกระบวนการ Squamous dysplasia บ่อยขึ้น
และกลายเป็นมะเร็งไปในที่สุด
4. สาเหตุอื่น ๆ
4.1 ปัจจุบันนี้ ไม่พบว่ายาเม็ดคุมกำเนิดจะเพิ่มความเสี่ยงในการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
ปากมดลูก
4.2 สตรีที่มารดาเคยใช้ Diethylstilbestrol (DES) อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิด CIN สูงขึ้น
4.3 การสูบบุหรี่ เชื่อว่าสารประกอบบางตัวในยาสูบเป็น carcinogen และเสริมฤทธิ HPV
ในการก่อให้เกิด CIN ระยะเวลาและจำนวนมวนบุหรี่ที่สูบมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง
4.4 อาหารโดยเฉพาะไวตามิน A อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ CIN 23,24 มีการศึกษาเปรียบเทียบ
ระดับไวตามิน A ในเลือดและอาหารของสตรีที่เป็น CIN และไม่เป็น พบว่าผู้ป่วยที่เป็น CIN มีระดับ
ไวตามิน A ในเลือดต่ำกว่าคนที่ไม่เป็นโรค
4.5 สตรีที่มีสภาพความเป็นอยู่ในการครองชีพต่ำ (Low socioeconomic) และสตรีที่มี
บุตรมาก มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงขึ้น


[Previous]

อุบัติการ

[Next]

อาการและอาการแสดง4-6

[Up]

มะเร็งปากมดลูก

[Home]

Home Page

Last modified on 25 October 1996