อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 8-11 ธันวาคม 2543

กำลังเดินออกจากหมู่บ้านชาวมอแกนแห่งใหม่ เมื่อออกมาจากอ่าวมอแกนแล้ว เราก็ไม่ได้ไปดำน้ำที่ไหนต่อ เพราะต่างคนต่างเหนื่อยล้ากันซะแล้ว แล้วเส้นทางที่จะไปยังอ่าวสุเทพ ซึ่งเป็นอ่าวสุดท้ายของเกาะสุรินทร์ใต้ ที่พวกเรายังไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนกันเลย เรือไม่สามารถที่จะผ่านไปได้เพราะน้ำทะเลเริ่มลงแล้ว ก็เลยต้องยกยอดไปไว้พรุ่งนี้ละกัน เป็นความผิดของพวกเราเองแหละ ที่ไปจัดการ เรื่องเส้นทางให้สมศักดิ์เขา ที่จริงเขาจัดการไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะพาไปที่ไหนก่อนหลัง แต่ด้วยความที่เรากลัวว่าเขาจะพาไปไม่ทั่วก็เลยจัดการซะเอง เล่นให้เขาพาไปเกาะตอรินลาก่อน แล้วย้อนกลับมาอ่าวผักกาด อ่าวเต่า หินกอง แล้วก็หมู่บ้านชาวมอแกน แล้วเส้นทางที่จะไปอ่าวสุเทพ ต้องผ่านอ่าวช่องขาด ซึ่งตอนบ่ายน้ำจะลดลงมากจนเรือไม่สามารถผ่านไปได้ แต่สมศักดิ์ก็ไม่ขัดใจพวกเราเลยน๊ะ...น่าให้ทิปจังเลย สมศักดิ์มาบอกพวกเราที่หลังว่าที่จริงแล้วตอนเช้าเราจะออกไปอ่าวสุเทพก่อน เพราะตอนเช้าน้ำขึ้นเรือผ่านตรงอ่าวช่องขาดได้ ต่อจากนั้นก็ไปเกาะรินลา อ่าวผักกาด อ่าวเต่า หินกอง แล้วก็อ่าวมอแกน เป็นจุดสุดท้ายของเกาะใต้ (อ้าว...สมศักดิ์ทำไมเพิ่งมาบอกล่ะ) ทั้งเกาะมีอยู่หนึ่งเดียวนี่แหละ

ไม่เป็นไรเวลาที่เหลืออยู่ผมจะพาทุกท่านไปเยี่ยมมุมต่างๆของเกาะเหนือตรงบริเวณที่ทำการล่ะกัน อาจจะมีรูปประกอบบ้างไม่มีบ้างนะครับ อย่างเช่นนี้เลยครับ โทรศัพท์สาธารณะ ใครจะคาดคิดว่าบนเกาะมีโทรศัพท์สาธารณะได้ จานดาวเทียมสำหรับรับสัญญาณ เป็นโครงการโทรศัพท์สาธารณะทางไกลชนบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี คนที่จะใช้บริการตรงนี้ได้ จะต้องมีบัตร PIN PHONE ครับ จึงจะมีสิทธิ์ อย่างผมนี่หมดสิทธิ์เลยเพราะไม่เคยสร้างบัตร PIN PHONE เลย ก็ไม่ได้ทดลองใช้ดูเลยว่าสัญญาณแจ๋วแค่ไหน ขอเตือนคนจะไปเยือนเกาะนี้ก็อย่าลืมเอา PIN PHONE ไปด้วยน๊ะ ส่วนมือถือไม่ต้องพูดถึงครับ สัญญาณหายต๋อมไปในทะเลหมดแล้ว ถังขยะ 3 ประเภทมีอยู่ทุกมุมของที่ทำการครับ

แล้วก็นี่ครับ ถังขยะ 3 ประเภทคล้ายๆกับของ ดร.โจ เบอร์ 11 นั่นแหละครับ มีฝาปิดมิดชิด แล้วมีตาข่ายครอบอีกครั้งนึง...ผมเลยมีคำถามมายังทุกคนว่า ทำไมทางอุทยานจึงต้องเอาตาข่ายมาครอบครับ ที่จริงผมก็ยังไม่ได้ถามใครหรอกครับ แต่ผมสันนิษฐานเอาหลังจากผมได้พบกับอะไรบางอย่าง คนที่จะไปเยือน ก็ลองค้นหาคำตอบดูนะครับ ภาพที่ผมเห็นอีกอย่างนึงคือการเดินเก็บขยะของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ผมไม่แน่ใจว่ามีนโยบายให้บุคคลเหล่านี้เดินเก็บบ่อยแค่ไหน 2 วัน/1ครั้ง หรือ ทุกๆวัน ก็ไม่ทราบ แต่วันนั้นที่ผมเห็นคือมีเจ้าหน้าที่เยอะมาก ประมาณ 10-15 คน เดินถือถุงปุ๋ยคนละใบ สายตาก็สอดส่ายหาขยะ ราวกับว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งมีค่ากับพวกเขาอย่างมากมายงั้นแหละ พาชมแค่นี้ก่อนล่ะกัน จะรีบอาบน้ำแล้ว ไปทานอาหารเย็นกัน วันนี้ขึ้นป้ายรายการอาหารไว้น่ากินทั้งนั้นเลย แกงเหลืองปักต์ใต้ ทอดมันปลา ต้มยำทะเล ปูม้านึ่ง แล้วก็ตบท้ายด้วยผลไม้อีก 1 จาน อาหารบางอย่างขอเติมได้ครับ ยกเว้นปู มีโควต้าคนละ 1 ตัวเท่านั้น

แฝดสี่(ผิดฝาด้วย) ที่เห็นด้านหลังคือจุดหมายปลายทางของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติค่ะ

<< BACK |

NEXT >>

เชิญถามมา-แล้วผมจะตอบไป


นายชอบเที่ยว (8-11 Dec. 2000)
dakee@chaiyo.com