ระบบปฏิบัติการคือกลุ่มของโปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระบบปฏิบัติการ ฮาร์ดแวร์ โปรแกรมประยุกต์และผู้ใช้
วงกลมในสุดหมายถึงฮาร์ดแวร์ หรือส่วนเครื่องที่เป็นรูปธรรมของเครื่อง วงถัดออกมา
เป็นระบบปฏิบัติการ หมายความว่า ระบบปฏิบัติการเป็นส่วนของชุดคำสั่งหรือโปรแกรม
ที่ติดต่อกับตัวเครื่องโดยตรง ถัดออกมาอีกก็เป็นเรื่องของโปรแกรมประยุกต์ หมายความว่า
โปรแกรมประยุกต์ต่างๆติดต่อกับระบบปฏิบัติการ เพื่อให้การทำงานของโปรแกรมเหล่านี้
เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของโปรแกรมประยุกต์ เช่นการเก็บไฟล์ลงในแผ่น
ดิสค์ ก็เป็นการทำงานของระบบปฏิบัติการทั้งสิ้น วงนอกสุดได้แก่ผู้ใช้ หมายความว่าผู้ใช้ติดต่อ
กับโปรแกรมประยุกต์เพื่อทำงานต่างๆของผู้ใช้เอง
ระบบปฏิบัติการสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่แบบ "งานเดี่ยว"
(single-tasking) และแบบ "หลายงาน" (multi-tasking)
ระบบแบบงานเดี่ยวเป็นระบบที่ยอมให้มีผู้ใช้เพียงหนึ่งคนเท่านั้นในการใช้่แต่ละครั้ง
และเมื่อมีผู้ใช้หนึ่งคนก็จะสามารถใช้โปรแกรมได้เพียงหนึี่งโปรแกรมเท่านั้น
ลักษณะนี้แตกต่างจากระบบแบบหลายงาน ซึ่งยอมให้มีผู้ใช้มากกว่าหนึ่งคนได้ในแต่ละชณะ
และผู้ใช้คนหนึ่งสามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่าหนึ่งโปรแกรมในเวลาเดียวกัน
ไมโครคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆมีระบบปฏิบัติการแบบงานเดี่ยว แต่ต่อมาเมื่อเครื่องมีความสามารถ
สูงมากขึ้น ระบบแบบหลายงานก็เป็นที่นิยมมากขึ้น จะเห็นได้ว่าระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ต่างๆก็เป็นแบบ
หลายงานทั้งสิ้น (เช่น Windows 95 หรือ MacOS ซึ่งจะกล่าวถึงในรายละเอียด่อไป)
ถ้าจะแบ่งตามประเภทของงาน ระบบปฏิบัติการประกอบด้วยส่วนประกอบใหญ่สองส่วน
ได้แก่ส่วนควบคุม (control function) และส่วนบริการ (service function) ส่วนแรก
เป็นส่วนที่เปรียบเสมือนหัวใจของคอมพิวเตอร์เนื่องจากเป็นส่วนที่จัดการดูแลการทำงานทั้งหมดของ
เครื่อง หน้าที่หลักๆของส่วนนี้ก็ประกอบด้วย การจัดลำดับก่อนหลังของความสำคัญในการใช้งาน
ของโปรแกรม (Scheduling and job management) การจัดการการโอนย้ายข้อมูลระหว่าง
ส่วนต่างๆของคอมพิวเตอร์ (Input/Output and data management) และการดูแลระบบ
(System monitoring)
ส่วนการบริการของระบบปฏิบัติการเป็นส่วนที่ช่วยเหลือให้งานของผู้ใช้ง่ายมากขึ้น โดยระบบ
ปฏิบัติการจะประกอบด้วยโปรแกรมช่วยเหลือต่างๆที่เรียกว่า utilities ซึ่งทำหน้าที่ต่างๆกันเช่น
การฟอร์แมตแผ่นดิสค์ การคัดลอกไฟล์ข้อมูล หรือการแสดงลำดับไฟล์ต่างๆในแผ่นดิสค์เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบริการแปลภาษาเครื่อง (compiling)ซึ่งเป็นบริการที่สำคัญมาก เนื่องจาก
โปรแกรมต่างๆอาจเขียนขึ้นด้วยภาษาโปรแกรมที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการเขียน
ดังนั้นเมื่อจะใช้โปรแกรมเหล่านี้ระบบปฏิบัติการก็มีหน้าที่แปลภาษาประดิษฐ์เหล่านี้ ที่เรียกกันว่า
ภาษาชั้นสูง (เช่น BASIC, FORTRAN, PASCAL, C, หรืออื่นๆ) มาเป็นภาษาที่เครื่องสามารถ
เข้าใจได้ นับว่าเป็นบริการที่จำเป็นมาก
หน้าที่ต่างๆของระบบปฏิบัติการแสดงได้ในรูปต่อไปนี้
Scheduling program ทำหน้าที่มอบหมายการทำงานของ CPU
และการป้อน การส่งข้อมูลให้แก่โปรแกรม
Job management program ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของโปรแกรม
และตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม
[กลับไปหน้าเริ่มต้น] [ไปหน้าต่อไป]