อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 8-11 ธันวาคม 2543

อาหารเย็นครับ วันนี้มีแกงเหลือง ปูนึ่ง ทอดมันปลา ผัดคะน้าปลาหมึก หลังจากเหนื่อยล้ากลับมาจากหาดไม้งามแล้ว พวกเราก็รีบอาบน้ำเพื่อรอรับ ปูม้านึ่งตัวหญ่ายยยครับ ประทานอาหารเย็นกัน มีทั้งที่เป็น Set ที่ทางอุทยาน จัดไว้คือคิดหัวละ 400 บาทต่อวัน/3มื้อ และมีทั้งที่สั่งเป็นจานตามที่ต้องการ แต่วันนี้มีป้ายเขียนไว้ตัวโตว่าวันนี้งดอาหารสั่ง ถ้าเป็นอาหารสั่งต้องเฉพาะกลุ่มที่มา 2-3 คนเท่านั้น ก็น่าเห็นใจพ่อครัวนะครับ ถ้าเจออาหารสั่ง อย่างกลุ่มผม 14 คน สั่ง 14 อย่าง ก็แย่กันพอดี ฉะนั้นกินอาหารที่เขาจัดไว้ให้นั่นแหละดีแล้ว เร็วดีด้วย เพราะเขาได้เตรียมไว้ให้เราตั้งแต่เรายังไม่กลับมาจากเที่ยวเลย หรือถ้าใครสมัครใจรอ เขาก็ไม่ว่าครับแต่ห้ามโวยเด็ดขาด (ประโยคนี้ผมว่าเองครับ) เสร็จจากนี้เราก็มีกิจกรรมหน้าบ้านพักกันจนเที่ยงคืนครับจึงจะได้นอน (สงสัยทาง อุทยานเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวเยอะก็เลยดับไฟเที่ยงคืน ซึ่งที่ผ่านมาจะดับไฟตอน 4 ทุ่ม)

เช้าวันที่สอง (9-12-2543)

ดำน้ำตื้นดูปะการัง เพิ่งจะออกมาจากเกาะที่ทำการได้ประมาณ 20 นาทีครับ หน้ายังใส ตื่นเต้นกันทุกคนเลย ถือว่าเป็นกิจกรรมหลักของทุกคนที่มุ่งมาที่นี่ นอกจากกลุ่มที่มาเพื่อดำน้ำลึกคงไม่อยู่ในกลุ่มนี้แน่นอน วันนี้เรามุ่งลงไปใต้สุดก่อนเลยครับ นั่นคือเกาะตอรินลา ออ..พวกเราเหมาเรือกันไปเลยครับ 1,500 บาท ทั้งวัน กลับเย็นทีเดียว โดยพวกเราจะไม่กลับมาทานอาหารกลางวันกัน เราสั่งอาหารกล่องง่ายๆกัน เช่น ผัดกะเพรา แต่ได้โหระพาแทน ข้าวไข่เจียว ข้าวหมูทอด ราคากล่องล่ะ 60 บาท (แต่ข้าวเยอะจริงๆครับ) แต่ถ้าเป็นกลุ่มเรือเมล์คือรวมหลายกลุ่มให้เต็มเรือ ก็จ่ายหัวละ 100 บาท ครับ ออก 9 โมงเช้า แล้วกลับมาทานอาหารกลางวัน ออกอีกครั้งนึง บ่าย 2 โมง แล้วก็กลับเย็น ผมคิดว่าคงไม่ค่อยแตกต่างกันหรอกครับ แต่ถ้าเราเหมาเรือไป เราจะแวะพักที่หาดไหนก็ได้ครับ แต่ถ้าจะให้ดีเรารวมกลุ่มกันเองให้ได้แล้วเหมาเรือกันไปจะคุ้มกว่าครับ มาจากกรุงเทพทั้งนั้น ทักทายกันซะหน่อยจะเป็นไรไปเน๊อะ.. ที่เห็นด้านหลังไกลๆนั่นแหละค่ะเกาะตอรินลา แต่ตรงนี้เรียกว่าอ่าวผักกาด เมื่อถึงจุดหมายพวกเราก็ไม่รอช้าครับ กระโดดลงกันทันที ว้าว...ครั้งแรกที่ก้มหน้าลงไปนี่ บอกได้คำเดียวไม่ผิดหวังเลยครับ ที่อุตส่าห์นั่งรถมาทั้งคืน แล้วนั่งเรือมาอีก 3 ชม. บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดครับ ใต้ผิวน้ำที่ใสสะอาดเต็มไปด้วยปะการัง และฝูงปลา เต็มไปหมด ไม่ว่าหันหน้าไปทางไหนเจอแต่ปะการังและฝูงปลา จริงๆแล้วผมรู้จักชื่อปลาไม่กี่ชนิดหรอก เช่นปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน ฯลฯ มันเยอะจริง เคยไปดำมาก็หลายแห่งแล้ว แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นแถวจังหวัดตรัง จังหวัดกระบี่ แต่ไม่ใช่ว่าที่นั่น จะไม่สวยนะครับ สวยเหมือนกัน แต่ถ้าก้มหน้าลงไปใต้น้ำมันไม่หนาแน่นเหมือนที่นี่ครับ จนผมมีความรู้สึกว่า อยากจะเห็นพื้นทรายบ้าง ไม่ได้หรือ (เอ..แล้วคุณจะมาดูอะไรกันนี่)

ออกจากเกาะตอรินลาแล้วก็ย้อนกลับมาที่อ่าวผักกาด ไม่ห่างกันมากนัก แถวนี้ก็สวยมากครับ เริ่มจะมีพื้นทรายให้ผมได้เห็นแล้ว ล่ะครับ แต่ก็ไม่สามารถเหยียบได้ถึง ค่อนข้างลึกแต่น้ำงี้ใสแจ๋ววววว...มองเห็นทุกอย่างได้ผืนน้ำได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ เราได้ขึ้นไปบน หาดทรายตรงอ่าวผักกาดด้วย ไปก้มดูใต้โขดหินเจออะไรทราบไม๊ครับ ปูครับ ปูเป็นๆ เยอะมากกกกก...สงสัยจะเป็นรังมันหรือเปล่า ก็ไม่รู้ แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเขาหรอกนอกจากจับภาพไว้เท่านั้นเอง. ท้องเริ่มหิวกันแล้วสิ หาที่กินข้าวกันดีกว่า พวกเราไปคุยกับคนขับเรือ (สมศักดิ์และสามารถ) ว่าตรงไหนที่ดีที่สุดสำหรับการกินอาหารกลางวัน วันนี้ ไม่ผิดหวังเลยครับหาดเต่า(อ่าวเต่านั่นแหละครับ) เป็นชายหาดที่สวยงาม ทรายขาว นุ่มเท้าดีจังเลย หลังจากทานอาหารกล่องที่วิเศษที่สุด ตั้งแต่กินอาหารกล่องมา มันช่างอร่อยอะไรอย่างนี้ ข้าวหมูทอดราดซอสพริกหน่อย อร่อยจริงๆครับ เราใช้เวลาวิ่งเล่นกันบนชายหาดนี้เกือบๆ 2 ชม. ครับ ไม่มีอะไรเลย บางคนนอนแช่น้ำ บางคนก่อกองทราย บางคนวิ่งไล่จับ บางคนนอนหลัล แล้วก็บางคนกลุ่มสุดท้ายนี่สิ ถ่ายแบบครับ รับรองลูกเกดหรือซอนย่ายังอายครับ(ผมคัดเลือกเฉพาะที่เจ้าของภาพตกลงให้โชว์ในที่สาธารณะได้มาลงนะครับ)

ชุดมัคนารีผล ชุดผลผลิตพระอภัยมณี

<< BACK |

NEXT >>

เชิญถามมา-แล้วผมจะตอบไป


นายชอบเที่ยว (8-11 Dec. 2000)
dakee@chaiyo.com