Chula's Logo
เชิญร่วมบริจาคที่ ธ.กรุงเทพ เพชว่บุรี สาขาย่อยบิ้กซี เพชรบุรี หรือ ธ.ไทยพาณิชย์ เพชรบุรี สาขาย่อย สาขาย่อยบิ้กซี เพชรบุร
  แดน
  เขามรกต
แดนสุขาวดี
เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว
  แดนพราหมณ์-ฮินดู
  แดนมหายานเต๋า
  แดนห้าแม่ผู้ยิ่งใหญ่
  แดนหุบเขาสี่อริยสงฆ์
  แดนพุทธเกษตร
  แดนมิตรต่างดาว
  แดนสิบสองนักษัตร
  ศาลาบูรพาอาจารย์
  อาคารบรมครู
  อาคาร 72 พรรษา
  ลานภาวนาสันติภาพ
  วิหาร ตี่ จ่าง อ๊วง
  ประชาสัมพันธ์
  แดนปฏิบัติ
  โรงเจ
  โรงบุญ
  หอสวดมนต์
  ครัววีไอพี
  วัดพูสวรรค์
  ก๊อด เอาส์
x
แดนสุขาวดี
แดนสุขาวดี  หมายถึงดินแดนที่มีแต่ความสุข  ปราศจากทุกข์ เป็นสวรรค์ที่งามวิจิตร  ดารดาษไปด้วยไพโรจนรัตน์  มีภูเขารัตมณีเรียงรายดุจกำแพงแก้ว  มีสระโบกขรณี  7  สระ  ที่กว้างใหญ่ไพศาล  ผู้ใดมาเกิดในแดนสุขาวดีจะอุบัติขึ้นในดอกบัวดอกใดดอกหนึ่งในสระใดสระหนึ่งแดนสุขาวดีจึงได้ได้ชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “ ดินแดนแห่งดอกบัว”  พื้นที่วัดจีนจึงนิยมวาดลายดอกบัวและใบบัวเพื่อสมมติว่า วัดเป็นแดนสุขาวดี แดนสุขาวดีอยู่ห่างจากโลกไปทางทิศตะวันตกราวหกแสนโกฏิ-สวรรค์  ชาวจีนเรียกสวรรค์แห่งนี้ว่า “ฮุดโจ๊วไชที”  แปลว่าสวรรค์ทางทิศตะวันตกของพระพุทธองค์  มีองค์มติตาภพพุทธเจ้าปกครอง  พระโพธิสัตว์สัตว์กวนอิมเป็นอัครสาวกเบื้องขวา  พระมหาสถามปราปด์มหาโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์)  เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย  พร้อมด้วยพระมหาโพธิสัตว์  พระโพธิสัตว์  และพระอรหันต์อีกมากมายเหลือคณานับดุจเม็ดทรายในมหาสมุทร

ประตูสุขาวดี

ที่ด้านหน้าประตูสุขาวดีจะมีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า เพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวชมที่ดวงไม่ดี มีเคราะห์ถูกลมเพลมพัด อธิษฐานขอบารมีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่แผ่บารมีสลายสิ่งอัปมงคลทั้งหลายในตัวเราให้หมดสิ้นไป เมื่อก้าวผ่านประตูสุขาวดีเข้ามาแล้วท่านจะได้กราบสักการบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายภายในแดนสุขาวดี

แปดเซียนผู้ยิ่งใหญ่

พระยูไล หรือพระอมิตาภพุทธเจ้า

พระอมิตภพุทธเจ้า พุทธะ หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น อมิตภพุทธเจ้า หมายถึง แสงว่างไม่มีที่สิ้นสุด อมิตภพุทธเจ้า จึงหมายถึง พระผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรม กว้างไกลหาที่สุดมิได้ ในพระพุทธศาสนามหายานกล่าวถึงพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ อันได้แก่ พระรัตนสัมภวะ พระอักโษภยะ พระไวโรจนะ พระอมิตภะ และพระอโฆสิทธิ อดีตพระพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงมีคุณานุภาพเท่ากัน พระสมณโคดมทรงเป็นผู้รู้แจ้ง เป็นที่พึ่งของโลกช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงตรัสรู้นั้น เนื้อหาแห่งพุทธะเหมือนกันทั้งหมด

พระเมตไตรยโพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์องค์นี้มีรูปประดิษฐานอยู่บนแท่นบูชาตามอารามทั่วไป เป็นรูปพระสงฆ์จีน ครองจีวรแบบจีน ปล่อยส่วนท้องให้เห็นท้องพลุ้ยใหญ่ รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้าหัวเราะร่าเริงมาก และมีถุงย่ามขนาดใหญ่อยู่ที่มือชวามือของท่าน ข้างซ้ายถือลูกประคำ ในที่บางแห่งจะเห็นมีรูปเด็กปืนป่ายขึ้นไปบนร่างท่านซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่า ท่านเป็นพระที่ใจดีมาก ไม่มีวิตกกังวลและห่วงใย ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไร เป็นที่เคารพรักของพวกเด็กๆ มาก รูปพระโพธิสัตว์องค์นี้ ในตำนานพุทธศาสนามหายานถือว่าเป็นรูปปั้นของพระ “หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่” เป็นพระภิกษุในยุค 5 รัชกาล เป็นชาวเมืองฮ่องฮัว มณฑลเม่งจิว ท่านบอกฉายาว่า “เข่ยขี้อ” หรือ “เชียงเทงจี้อ” โดยปกติท่านมีลักษณะอาการแสดงความเบิกบานเป็นสุขตลอดเวลา ไปไหนมาไหนจะมีย่ามใบใหญ่ติดตัวไปด้วย จึงได้รับฉายาว่า “หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่” ท่านพูดอะไรมักจะเป็นอรรถ มีความหมายในทางนิกายเซ็น (ธยาน) ในปีที่ 3 แห่งรัชกาลเจงเม้ง (พ.ศ. 1460) ท่านได้นั่งเข้าสมาธิถึงแก่มรณภาพไปที่แท่นหินวัดงักลิ้ม ก่อนดับได้เขียนคาถาไว้บทหนึ่งว่า พระเมตไตรย คือ พระเมตไตรยแบ่งกายเป็นพันหมื่นโกฏิ ให้คนได้เห็นทุกเวลาแต่คนก็ไม่รู้จัก ฉะนั้น บรรดาพุทธสาวก จึงต่างสันนิษฐานว่าหลวงพ่อถุงย่ามใหญ่คือพระเมตไตรยมาโปรดแล้วเลยออกฉายาท่านว่า พระเมตไตรยโพธิสัตว์

ลานบูชาฟ้าดิน

ทีตี่แปะบ้อ หรือ ที่กง ชาวจีนตั้งแต่ยุคโบราณมีความเชื่อเรื่อจิตวิญญาณ มีการบวงสรวงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ ฮ่องเต้หรือพระจักรพรรดิจีนได้สร้างเสาฟ้าดินขึ้น เพื่อเป็นสถานที่บูชาเทพยดา และเสด็จไปทำพิธีบวงสรวงเป็นประจำทุกปี เพื่ออธิษฐานให้พืชพันธ์ธัญญาหารของแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ และให้อาณาประชาราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุข ณ เสาฟ้าดินแห่งนี้ได้ประกอบพิธีเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แก่ผู้มีศรัทธา ท่านสามารถอธิษฐานให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้อยู่เย็นเป็นสุข และประสบโชคลาภ

วิหารพระโพธิสัตว์อวโลกกิเตศวร ปางพันเนตรพันกร

เป็นที่ประดิษฐานพระมหาโพธฺสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันเนตรพันกร ที่แกะสลักจากไม้การบูรหอมจากประเทศจีนซึ่งสูงใหญ่ที่สุดในโลกและนับเป็นองค์ต้นแบบองค์แรกของประเทศไทย เป็นปางที่แสดงถึงความเอื้ออาทรที่จะโปรดสัตว์โลกผู้อยู่ในห้วงทุกข์ให้พ้นจากความทุกข์ ด้วยพระมหาเมตตาบารมีอันหาขอบเขตมิได้ ผู้ที่กราบไหว้ขอพรด้วยจิตศรัทธาก็จะได้รับการประทานพรและช่วยเหลือจาก
เจ้าแม่กวนอิมอย่างแน่นอน
เจ้าแม่กวนอิม ประสูติ  เมื่อวันที่ ๑๙ เดือน ๒ (นับแบบจีน)
สำเร็จโพธิจิตบารมี เมื่อวันที่ ๑๙ เดือน ๖ (นับแบบจีน)           
ทิ้งขันธ์ เมื่อวันที่ ๑๙ เดือน ๙ (นับแบบจีน) รวมสิริพระชนมายุ ๓๔ ปี ๖ เดือน
เจ้าแม่กวนอิมท่านได้ตั้งปณิธานไว่ว่า “ตราบใดสัตวโลกยังไม่พ้นทุกข์ ตราบนั้นพระองค์จะไม่ยอมเข้าแดนนิพพาน”
พระคาถาบูชาพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(เจ้าแม่กวนอิม)ฉบับดั้งเดิมใช้บูชาได้ทุกปาง
“นะโมตัสสะมัย อะภัยมัททะ อะวะโลกิเตศะวะราย โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ”
ผู้ที่ท่องบ่นคาถานี้เป็นประจำเช้า-เย็น จะปลอดภัยจากอันตรายต่างมากมายสุดที่จะพรรณนา

พระเวทโพธิสัตว์ (อุ่ยท้อผ่อสัก)

ชาวจีนเรียกว่า อุ่ยท้อพู่สัก แผลงมาจากคำว่า เวทโพธิสัตว์ในภาษาสันสกฤต แปลความหมายตามภาษาจีนว่า “ผู้มีอานุภาพสนองอุปการะ” เป็นมหาเทพโพธิสัตว์องค์หนึ่ง มีหน้าที่รักษาพระศาสนาตามประวัติกล่าวว่า ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าเป็นต้นมา ท่านได้บำเพ็ญพรตพรหมจรรย์ ทรงเคารพนอบน้อมต่อพระธรรมวินัย พร้อมที่จะปกปักรักษาพระธรรมวินัย และมีเมตตาการุญต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตามประวัติในหนังสือจีนกล่าวว่า ท่านปรากฏกายในสมัยราชวงศ์ถัง ที่ภูเขานานซาน ต่อหน้าพระคณาจารย์เต้าชวงฮวบขือ ผู้ปฏิบัติประพฤติเคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยยิ่ง มหาเทพองค์นี้มีหน้าที่คุ้มครองปกปักรักษาวัดวาอาราม ตลอดถึงพุทธบริษัททั้งหลาย รูปลักษณะของพระอุ่ยท้อ หรือ พระเวทโพธิสัตว์ ปกติแต่งกายสวมเกราะทองและมงกุฎ หัตถ์หนึ่งประคองวัชรคทาวิเศษ อักหัตถ์หนึ่งอยู่ในท่าประนมอยู่ในลักษณะท่าทางสง่าผ่าเผยสำรวมน่าเลื่อมใสวัชรคทาวุธนี้ ใช้ปราบปรามพวกปีศาจมารร้ายที่มารังควานพระพุทธศาสนาโดยปกติรูปพระเวทโพธิสัตว์จะอยู่หลังพระเมตไตรยโพธิสัตว์ หันพักตร์สู่วิหารหรือพระอุโบสถเป็นสัญลักษณ์ เชื่อกันว่าผู้บูชาจะพ้นภัยพิบัติ มีสุขสมบูรณ์ และมั่งคั่งตามปรารถนาทุกประการ หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เทศน์ว่าฮุ่ฮวบซิ้ง หรือพระเวทโพธิสีตว์ที่กล่าวถึงนี้ คือท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ ซึ่งเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลานะ ในสมัยพุทธกาล ชาติหนึ่งในการบำเพ็ญเคยเกิดเป็นพระเวทโพธิสัตว์

เจ้าแม่กวนอิม 4 ปาง

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางยืนบนดอกบัว

พระแม่กวนอิมปางยืนบนดอกบัว ทรงอยู่ในปางประทานพร เป็นปางที่เพิ่ง บำเพ็ญบารมี สำเร็จ พระแม่กวนอิมเมื่อเป็นมนุษย์พระชาติสุดท้ายทรงเกิดในสมัย ราชวงศ์ซิงหลิง แห่ง อาณาจักรซิงหลิงของจีนซึ่งอยู่ในยุคของพระพุทธเจ้ามหากัสสปะ หรือ พระอมิตาพุทธ ของจีน จักรพรรดิเมี่ยวจวงผู้ปกครองอาณาจักรซิงหลิงมีพระธิดา ๓ องค์ องค์ที่ ๓ ชื่อ เมี่ยวซัน เป็นผู้มีเมตตาและชอบถือศีลกินเจ แต่เมี่ยวจวงผู้เป็นพระบิดาไม่เห็นด้วยและ พยายามขัดขวาง เช่นครั้งหนึ่งขณะที่พระธิดาเมี่ยวซันบำเพ็ญ ที่เกาะโพวถ่อซัว ก่อนที่จะ สำเร็จโพธิจิต พระเจ้าเมี่ยวจวงได้ยกทัพใหญ่มาชัดขวาง บุกขึ้นเกาะทำลายบ้านเรือน เผา โรงเจของพระธิดา แต่พระธิดาเมี่ยวซันไม่หนี พระอินทร์หรือเง็กเซียนฮ่องเต้ ต้องใช้ อิทธิฤทธิ์ทำให้พระธิดาลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วดับไฟทั้งหมด พระธิดาได้เทศน์โปรดจน พระบิดาสำนึกบาปกลับใจหันมาบำรุงพระศาสนา ตอนพระธิดาเมี่ยวซันลอยลงมา จาก อากาศ เง็กเซียนฮ่องเต้ได้เนรมิตดอกบัวมารองรับไว้ จึงปรากฏองค์สมมติ พระแม่กวนอิมปางยืนบนดอกบัวขึ้น พระแม่กวนอิมปางยืนบนดอกบัวนี้ เหมาะสำหรับอธิษฐานขอพร ขอและขอให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางยืนบนปลามังกร

พระแม่กวนอิมปางยืนบนปลามังกร เป็นปางที่ท่านบำเพ็ญโพธิจิตสำเร็จแล้ว ชาวจีน ถือว่าปลามังกรเป็นเจ้าแห่งปลา ปลาตัวนี้บำเพ็ญนานนับหมื่นปีจนเขางอก มีนิสัยดุร้าย เมื่อชาวเรือไปจับปลาซึ่งเป็นบริวารของตนก็โกรธ และกัดกินชาวเรือที่จับปลา ชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนต่างอธิษฐานขอให้พระแม่กวนอิมทรงช่วย ด้วยแรงอธิษฐานทำให้ พระแม่กวนอิมซึ่งบำเพ็ญโพธิจิตอยู่ที่เกาะโพวถ่อซัวต้องเสด็จไปเทศน์โปรดปลามังกรจน คลายโทสะและยอมเป็นพาหนะให้พระแม่กวนอิมเหยียบข้ามไปมาระหว่างผืนแผ่นดินกับ เกาะเมื่อปลามังกรตายได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ในแดนสุขาวดี

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางยืนบนเต่า

พระแม่กวนอิมปางยืนบนหลังเต่าเป็นปางที่เกิดขึ้นหลังจาก ที่พระแม่กวนอิมอยู่ใน แดนสุขาวดี หรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อครั้งพระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้เลื่อมใสใน พระพุทธศาสนา ให้พระถังซัมจั๋งเดินทางไปอันเชิญพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป ระหว่าง เดินทางต้องข้ามเขาหิมาลัยเมื่อถึงแม่น้ำคงคา มีพญาเต่าตัวหนึ่งบำเพ็ญอยู่นานนับหมื่นปี พญาเต่าจึงอาสาพาพระถังซัมจั๋งข้ามแม่น้ำโดยให้นั่งบนหลัง พญาเต่าได้ฝาก พระถังซัมจั๋ง ให้ช่วยทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ เมื่อใดจะสิ้นเวรกรรมเสียทีจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์บ้าง “ พระถังซัมจั๋งรับปากพญาเต่า แต่พระถังซัมจั๋งลืมถามพระพุทธเจ้า เมื่ออันเชิญพระไตรปิฎก กลับมาถึงแม่น้ำคงคา เป็นเหตุให้พญาเต่าโกรธมาก จึงจมตัวลงไปในทำให้พระไตรปิฎก จมน้ำ หลังจากนั้นพญาเต่ากลายเป็นเต่าดุร้ายอาละวาด ขึ้นมาคาบคนจนเกิดเหตุวุ่นวาย จน ในที่สุดพระแม่กวนอิมต้องอาสามาปราบเต่าตัวนี้จนลดโทสะได้สติ และยอมเป็นพาหนะ ให้พระแม่กวนอิมเหยียบบนหลังพระแม่กวนอิมปางยืนบนหลังเต่านี้ เหมาะสำหรับ อธิษฐานขอให้มีอายุยืน

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางยืนบนมังกร

พระแม่กวนอิมปางยืนบนมังกร เป็นปางที่เกิดขึ้นในสมัยที่พระแม่กวนอิมอยู่ในแดนสุขาวดี มีพญาเต่าและพญามังกรบำเพ็ญมานานจนสามารถแปลงเป็นคนได้ ครั้งหนึ่งลูกชาย พญามังกร ซึ่งมีนิสัยเกเร ได้แปลงเป็นคนมาเที่ยวเมืองมนุษย์ เกิดหลงรักหญิงสาว ใน หมู่บ้าน และได้ล่วงเกินก่อนฆ่าทิ้ง ชาวบ้านจับได้จึงฆ่าลูกพญามังกร พญามังกรโกรธมาก จึงอาละวาดทำให้น้ำท่วม เมืองจีนเกิดวุ่นวายข้าวยากหมากแพง และทำให้คนตาย เป็นจำนวนมาก วิญญาณของผู้ตายก็ไปร้องเรียนเทวโลก เทวโลกต้องประชุม หาผู้ที่ อาสาปราบพญามังกร พระแม่กวนอิมเห็นว่าถ้าให้ผู้อื่นไปปราบพญามังกรอาจถูกฆ่า ดังนั้นพระแม่กวนจึงอาสาลงมาปราบ จนพญามังกรสำนึกผิดยอมให้ พระแม่กวนอิม เหยียบพญามังกรขึ้นไปจองจำหรือบำเพ็ญบนสวรรค์ พระแม่กวนอิมปางยืนบนมังกรนี้ เหมาะสำหรับการอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งหรือขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล