เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราสามารถติดต่อกับอินเทอร์เน็ตได้หลายวิธี
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการความเร็วมากน้อยเพียงใดในการติดต่อ รวม
ทั้งสถานที่ที่เราใช้เครื่องของเราด้วย ว่าห่างไกลจากศูนย์คอมพิวเตอร์
ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องที่แจกจ่ายข้อมูล และก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของ
ผู้ใช้ว่าต้องการความเร็วหรือความสะดวกรวดเร็วมากน้อยเพียงใดด้วย
ในปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสถาบันการศึกษาจะ
ต้องเสียค่าบริการอินเทอร์เน็ตในอัตราที่ค่อนข้างสูง กล่าวกันว่าอัตราค่า
บริการอินเทอร์เน็ตของบุคคลทั่วไปในประเทศไทยนี้สูงที่สุดในโลก ทั้งนี้ก็
เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะถือว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นคนร่ำรวยและ
สามารถจ่ายค่าบริการจำนวนนี้ได้โดยไม่เดือดร้อน ทั้งนี้การเก็บค่าบริการอินเทอร์เน็ต
นี้ยังคงเป็นการผูกขาดของการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นผู้ควบคุม
ดูแลการโทรคมนาคมระหว่างประเทศทั้งหมด การสื่อสารฯได้รายได้จากการผูก
ขาดนี้เป็นกอบเป็นกำ เหตุผลที่การสื่อสารมักจะอ้างก็คือว่า เนื่องจากผู้ใช้
อินเทอร์เน็ตมีฐานะดี ดังนั้นจึงควรเก็บค่าบริการแพงๆเหมือนกับการเก็บภาษี
กลายๆเพื่อเป็นทุนในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เหตุผลนี้ดูเหมือนจะมีน้ำหนัก
พอสมควร แต่ถ้าพิจารณาว่าการใช้จ่ายเงินของภาครัฐฯไม่มีความโปร่งใสใดๆ
ให้ตรวจสอบได้อย่างจริงจัง ก็ไม่น่าเชื่อว่าข้ออ้างดังกล่าวนี้เป็นความจริง
นอก
จากนี้การอ้างว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นผู้ร่ำรวยเท่านั้นยังเป็นการแบ่งชนชั้น
วรรณะอย่างโจ่งแจ้ง และเท่ากับว่าคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนรวยจะไม่มีวันสัมผัสกับ
อินเทอร์เน็ตได้ ความคิดเช่นนี้ไม่เอื้อต่อการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปข้าง
หน้าได้เป็นอย่างยิ่ง
ย้อนมาพูดถึงเรื่องการติดต่อกับอินเทอร์เน็ต ในขณะนี้เรามีวิธีติดต่ออยู่สี่วิธี
การติดต่อแบบถาวร หรือ Permanent Connection
การติดต่อแบบนี้เป็นแบบที่รวดเร็วที่สุด แต่ก็สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากที่สุด
ด้วยเช่นกัน คอมพิวเตอร์ที่นิสิตใช้อยู่ที่อาคารบรมฯก็ติดต่อแบบนี้ โดยมีสาย
เชื่อมจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของ ChulaNet
มายังอาคารบรมฯ แล้วก็แจกจ่าย
สายต่างๆไปยังเครื่องแต่ละเครื่องที่นิสิตใช้อยู่อีกทอด การติดต่อแบบนี้ใช้
ระบบเครือข่ายที่เรียกว่า Ethernet ซึ่งเป็นระบบฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายที่ใช้
กันมากที่สุด สายที่เชื่อมต่อจากแม่ข่ายมายังอาคารบรมฯนี้เป็นสายใยแก้วนำแสง
ซึ่งให้ความเร็วข้อมูลสูงมาก
การติดต่อโดยตรงเมื่อต้องการ หรือการติดต่อโดยตรงผ่านสายโทรศัพท์ (On Demand Permanent Connection)
การติดต่อแบบนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้าเครื่องของเราไม่ได้ติดต่อโดยตรงโดยเครือข่าย
แบบ Ethernet วิธีการก็คือเราใช้สายโทรศัพท์ธรรมดาที่เราใช้กันอยู่เป็นเส้นทาง
ในการเชื่อมโยงข้อมูลแทน การที่คอมพิวเตอร์ติดต่อกันโดยผ่านสายโทรศัพท์จำเป็น
ที่จะต้องมีอุปกรณ์อันหนึ่งเรีกว่า "โมเด็ม" (modem) ซึ่งทำหน้าที่แปรข้อมูลจาก
คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลแบบดิจิตัล เป็นสัญญาณโทรศัพท์ซึ่งเป็นสัญญาณแบบ
อนาล็อก และนอกจากโมเด็มแล้วก็จะต้องมีโปรแกรมพิเศษอีกโปรแกรมหนึ่งเพื่อ
ทำให้เครื่องของเราทำงานเป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตจริงๆ โปรแกรมนี้ก็เป็น
ภาษาเครือข่ายบนอินเทอร์เน็ตอีกภาษาหนึ่ง เรียกว่า "PPP"
ซึ่งย่อมาจาก Point-to-Point
Protocol การใช้โปรแกรมนี้ทำให้เครื่องของเราสามารถทำงานได้ทุกอย่าง เช่นเดียว
กับที่เครื่องแม่ข่ายหรือเครื่องที่ต่อกับแม่ข่ายด้วย Ethernet ทำได้
เพียงแต่ว่าสายโทรศัพท์
นั้นจะเท่ากับมีการพูดสายอยู่ตลอดเวลาที่เราต่อกับระบบอยู่
ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตมักจะเรียกการบริการแบบนี้ว่า "แบบรูปภาพ"
หรือ Graphic
Service เนื่องจากการติดต่อแบบนี้ทำให้เราสามารถดึงเอาข้อมูลที่เป็นรูปภาพหรือ
เสียงมาดูหรือฟังได้โดยตรง
การติดต่อแบบเทอร์มินัล (Dial-Up Terminal Connection)
การใช้โปรแกรม PPP
นี้จำเป็นต้องอาศัยเครื่องที่มีสมรรถนะสูงพอสมควร โดยเ©พาะ
อย่างยิ่งถ้าเราใช้โปรแกรมใหม่ๆสำหรับค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าเราไม่มี
เครื่องแบบนั้น เราก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว เนื่องจากยังมีการติดต่ออีกวิธีหนึ่ง
ได้แก่การติดต่อแบบเทอร์มินัล ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเร็วๆแต่อย่างใดเลย
วิธีการ
นี้ก็คล้ายคลึงกับวิธีที่สองตรงที่เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับอินเทอร์เน็ตโดย
ใช้โมเด็ม แต่แตกต่างกันที่ในการต่อแบบนี้เครื่องของเรามีฐานะเป็นเพียง
จอ ของ
เครื่องที่เราต่อไปหาเท่านั้น เครื่องของเราไม่มีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ต
แต่ประการใด แต่ในขณะที่เราใช้การติดต่อแบบนี้อยู่นั้น การประมวลผลของเครื่อง
ไม่มีบทบาทอะไรเกี่ยวกับการติดต่อนี้เลย นอกจากบทบาทเล็กน้อยเวลาเราถ่ายโอน
ข้อมูลระหว่างเครื่องที่เราต่อไปหากับเครื่องของเราเท่านั้น โปรแกรมที่ใช้สำหรับ
การติดต่อแบบนี้ก็เป็นโปรแกรมสั่งงานโมเด็มตามปกติ เช่น Procomm หรือ
Terminal
ใน Windows หรือ Zterm ในเครื่องแมคอินทอช
การติดต่อแบบนี้ก็ทำให้เราสามารถติดต่อกับทุกๆส่วนของอินเทอร์เน็ตได้ เพียงแต่ว่า
เราต้องใช้วิธีการบางอย่างเปลี่ยนข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวอักษรมาเป็นไฟล์ที่ใช้งานได้
ศุนย์บริการอินเทอร์เน็ตมักเรียกการบริการแบบนี้ว่า "ตัวอักษรล้วนๆ"
(Text only) เนื่อง
จากการติดต่อมีแต่ทางตัวอักษรเท่านั้น (แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถดึงเอา
ไฟล์อื่นๆที่ไม่ใช่ตัวอักษรมาใช้ได้ เพียงแต่เราต้องรู้วิธีและไม่สามารถใช้งานได้ทันที
เท่านั้น วิธีนั้นเป็นอย่างไรไม่สามารถพูดได้ในที่นี้ เนื่องจากที่ไม่พอ
นิสิตสามารถ
ค้นคว้าเอาเองได้)
การติดต่อแบบไปรษณีย์เท่านั้น (E-mail Only Connection)
การติดต่อแบบนี้เป็นวิธีที่มีข้อจำกัดมากที่สุด แต่ก็ประหยัดทรัพยากรมากที่สุด
ด้วย
เช่นกัน วิธีนี้เกือบจะเหมือนกับแบบที่สาม ต่างกันเพียงแค่ว่าเราใช้บริการได้แต่เพียง
จดหมายอิเล็คโทรนิคส์ หรืออีเมล์ เท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตได้
(เช่น
การถ่ายโอนข้อมูล การสืบค้นข้อมูลบนเวิร์ลไวด์เว็บ ฯลฯ) บริการอย่างเดียวที่เรา
ใช้ได้ก็คือจดหมายอิเล็คโทรนิคส์ (แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังมีอัจ©ริยะจำนวนหนึ่ง
ที่ช่วยให้ผู้ที่มีแต่อีเมล์ได้ข้อมูลต่างๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบอีเมล์โดยตรงได้
แต่นี่ก็เกิน
ขอบเขตของการบรรยายนี้ไปอีกเช่นกัน)